พนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญา สั่งฟ้อง แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ บริษัท เคทูเอ็น โกลด์ 4 ข้อหาหนัก พร้อมนัดเบิกตัวขึ้นศาล 18 พ.ย.2567
15พ.ย.67 สำนักงานอัยการสูงสุด เผยความคืบหน้าการสั่งฟ้องผู้ต้องหาคดีแม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ บริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด กับพวก โดย นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.)ได้ส่งสำนวนคดีระหว่าง นางสาววันวิสา ทองสุข กับพวก ผู้กล่าวหา บริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัดโดย นายกานต์พล เรืองอร่าม ผู้ต้องหาที่ 1, นายกานต์พล เรืองอร่าม ผู้ต้องหาที่ 2, นางสาวกรกนก สุวรรณบุตร ผู้ต้องหาที่ 3 ให้กับพนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญา เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกาย 2567
โดยพนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้อง ผู้ต้องหาที่ 1, 2 และ 3 ฐาน”ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียทายแก่ประชาชน, ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค โดยเจตนา
ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือผู้อื่น
โฆษณาหรือใช้ฉลากที่มีข้อความอันเป็นเท็จหรือข้อความที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเช่นว่านั้น, ร่วมกันขายสินค้าที่ควบคุมฉลากโดยไม่มีฉลากหรือมีฉลากแต่ฉลากหรือการแสดงฉลากนั้นไม่ถูกต้อง และร่วมกันประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต”
และมีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 3 ฐานร่วมกันขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใด ๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพหรือปริมาณ แห่งของนั้นอันเป็นเท็จ
ในวันนี้ พนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญา ได้มีคำสั่งสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 3 ฐาน”ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประซาชน, ร่วมกันโมษนาโดยใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค โดยเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ
ไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือผู้อื่น โฆษณาหรือใช้ฉลากที่มีมีข้อความที่อันเป็นเท็จหรือข้อความที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเช่นว่านั้น, ร่วมกันขายสินค้าที่ควบคุมฉลากโดยไม่มีฉลากหรือมีฉลากแต่ฉลากหรือการแสดงฉลากนั้นไม่ถูกต้อง และร่วมกันประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 343,83,91
พระราชบัญญัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1)พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 22, 30,47,52 พระระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545มาตรา 27, 47 ที่แก้ไขแล้ว ตามความเห็นของพนักงานสอบสวน และสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 3 ฐานร่วมกันชายของโดยหลอกลวงด้วยประการใด ๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ หรือปริมาณ แห่งของนั้นอันเป็นเท็จตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 271 ตามความเห็นของพน้างานสอบสวน และได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 3 ต่อศาลอาญาในวันนี้
สำหรับ กรณีที่สั่งไม่ฟ้องได้เสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 145/1 ต่อไป