วันพุธที่ 23 ต.ค.67 ที่เพจสายไหมต้องรอด เขตสายไหม น.ส.วรรณพร อายุ 33 ปี พาครอบครัวมาร้องทุกข์กับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กรณีถูกเพื่อนบ้านอดีตตำรวจ สน.ภาษีเจริญ สาดฉี่มาใส่หลังคาบ้านนานนับปี จนมีกลิ่นฉี่เหม็นตลบอบอวนทั่วบริเวณ แจ้งความแล้วก็ยังไม่หยุดจน จนท.ตำรวจแนะนำให้ทำใจ
น.ส.วรรณพร กล่าวว่า เพื่อนบ้านคนดังกล่าวเป็นอดีตตำรวจ ยศ ร.ต.อ. ได้ย้ายมาปลูกบ้านติดกันช่วงปี 2562 หลังจากเกษียณอายุราชการจาก สน.ภาษีเจริญ ช่วงแรกไม่ได้มีปัญหาอะไร ต่อมาเพื่อนบ้านได้มีการต่อเติมกันสาดรุกร้ำเข้ามาในเขตพื้นที่บ้านของตน ทำให้ฝนตกน้ำไหลเข้ามาในบ้าน ตนจึงแจ้งไปว่ากันสาดยาวรุกล้ำเข้ามา แต่เพื่อนบ้านยืนยันว่าไม่รุกล้ำ ตนจึงตามเจ้าหน้าที่รังวัดที่ดินมาตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ก็ยืนยันว่ากันสาดรุกล้ำเข้ามาจริงๆ ทำให้เพื่อนบ้านไม่พอใจ นับแต่นั้นเป็นต้นมา ก็มีพฤติกรรมโยนเศษอาหารมาใส่บ้านตน หนักขึ้นก็สาดฉี่มาใส่หลังคาบ้าน พอตนไปสอบถามเพื่อนบ้านก็จะปฏิเสธว่าไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ได้ทำ ตนจึงตัดสินใจติดกล้องวงจรปิดเพื่อหาหลักฐาน จนกระทั้งกล้องวงจรปิดจับภาพได้ขณะกำลังสาดฉี่มาใส่บ้านของตน ซึ่งสาดทุกคืน บางคืนสาดมาหลายครั้ง ทำให้มีกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่ว ครอบครัวตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งว่าที่ สน.ตลิ่งชัน เพื่อเอาผิดกับเพื่อนบ้านรายดังกล่าว แต่ตำรวจแจ้งว่ามันไม่มีอะไรเสียหาย ไม่รู้จะช่วยได้หรือเปล่า หากเขารู้ว่ามาแจ้งความเกรงว่าเขาจะทำหนักขึ้น ดังนั้นตำรวจจึงแนะนำ ให้ทำใจ เมื่อได้ยินแบบนี้ทำให้ครอบครัวตนยิ่งเครียดมากขึ้น แม่ถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะกลิ่นมันเหม็นมาก แม่เป็นคนตื่นง่าย พอเพื่อนบ้านสาดมาใส่หลังคนจะมีเสียงดัง ทำให้แม่สะดุ้งตื่นจนนอนไม่หลับ ทำให้สุขภาพแม่แย่ลงไปมาก
ด้าน นางจรูญ อายุ 73 ปี แม่ของ น.ส.วรรณพร กล่าวว่า ตนเครียดมาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ บางคืนสาดมาทั้งคืน เกิดเสียงดังจนไม่มาสารถหลับได้ ทุกๆวันพอตกบ่ายๆเวลาแดดจัดๆ กลิ่นเหม็นจะตลบอบอวน ตนต้องไปหาซื้อน้ำยาฆ่าเชื้อโรคมาล้างทำความสะอาดเพื่อขจัดกลิ่น เป็นแบบนี้ทุกวัน ไปแจ้งความก็ทำอะไรไม่ได้ จึงตัดสินใจชวนลูกสาวมาพบ นายเอกภพ เพื่อขอความช่วยเหลือดังกล่าว
ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ปัญหาเพื่อนบ้านเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะทั้ง 2 ฝ่ายต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนาน จึงอยากฝาก ผอ.เขตตลิ่งชัน , สก.เขตตลิ่งชัน , ผกก.สน.ตลิ่งชัน และผู้นำชุมชน ร่วมเข้าไปดูแลช่วยเป็นคนกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยปัญหา เพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ แต่หากเจรจาไกล่เกลี่ยไม่เป็นผล ก็คงต้องดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป