พ่อพาลูกออกทะเลจับปู แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน 6 ชีวิตเรือล่มกลางทะเล ก่อนพ่อทำสิ่งไม่คาดคิดในเฮือกสุดท้าย ก่อนหายไปต่อหน้าลูกชาย
โศกนากรรมสุดสลดรายงานจาก สหรัฐอเมริกา เมื่อเกิดเหตุการณ์ เด็กชายวัย 13 ปี ลงเรือไปจับปูกับคนในครอบครัว มันควรเป็นกิจกรรมที่สร้างความทรงจำดีๆ กับพ่อและญาติของเขา แต่ทุกอย่างกลับกลายเป็นฝันร้ายเมื่อเรือเจอคลื่นแรงจนล่มกลางทะเล ท่ามกลางความตื่นตระหนก พ่อตัดสินใจดันลูกชายเข้าไปในกล่องเก็บความเย็น ซึ่งนั่นกลายมาเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เด็กชายรอดชีวิตเพียงผู้เดียว
ตามรายงานระบุ เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา จูดี้ เด็กชายวัย 13 ปี ตามพ่อ ลุง ญาติ และคนที่สนิทกับครอบครัว ขึ้นเรือออกไปจับปูดันจิเนสด้วยกัน นอกชายฝั่งโบดาเกเบย์ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ในคืนนั้นคลื่นลูกใหญ่ได้ซัดเรือของพวกเขาจนล่ม แม้ทุกคนบนเรือจะรีบคว้าเสื้อชูชีพและกระโดดลงทะเล แต่ก็ถูกแรงดูดของเรือที่กำลังจมลงใต้น้ำ ดึงให้พวกเขาจมน้ำไปด้วยกัน
เด็กชายผู้รอดชีวิตเล่าว่า ตอนนั้นเขาจมลงไปในน้ำค่อนข้างลึกก่อนจะหาทางว่ายขึ้นมาบนผิวน้ำได้ เขากินน้ำทะเลเข้าไปจำนวนมาก จากนั้นท่ามกลางความตื่นตระหนก พ่อก็จับเขาดันเข้าไปนั่งในกล่องเก็บความเย็นที่ลอยออกมาจากเรือ ในช่วงแรกพ่อก็ยังใช้มือเกาะกล่องนั้นไว้แน่น แต่ท้ายที่สุดพ่อก็หมดแรง และจมหายลงทะเลไป
จูดี้ เล่าว่า มันเป็นความรู้สึกเลวร้ายที่ต้องมองดูพ่อจมหายไปต่อหน้า เขาเอาแต่ร้องไห้เรียกหาพ่อ แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงพ่ออีก จากนั้นเขาก็ต้องนั่งอยู่ในกล่องเก็บความเย็นนั้น ลอยเคว้งไปในทะเลตามลำพัง กระทั่งคลื่นซัดเข้าใกล้ฝั่ง และได้รับความช่วยเหลือในเช้าวันต่อมา
หน่วยยามชายฝั่งสหรัฐฯ พยายามค้นหาอีก 5 คนที่เหลือบนเรือ แต่พบเจอเพียงร่างของญาติวัย 17 ปีของเด็กชาย ปฏิบัติการค้นหายังดำเนินต่อไปร่วม 1 สัปดาห์ ก่อนจะยกเลิกการค้นหาแม้จะยังไม่พบร่างของอีก 4 คนที่เหลือก็ตาม
เด็กชายเล่าต่อไปว่า สิ่งที่เขาคิดในตอนที่อยู่ในทะเล คือเขาต้องหาทางกลับมาเจอครอบครัวอีกให้ได้ ในสักวันหนึ่ง ขณะที่ตอนนี้เขาได้กลับไปอยู่กับแม่และป้าแล้ว และต้องหยุดเรียนนาน 1 สัปดาห์หลังเกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เด็กชายซึ่งเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวบนเรือ พร้อมกับแม่ของเขา ต้องปรับตัวให้เข้ากับชีวิตที่ไม่มีพ่ออีกต่อไป โดยที่ป้าเองก็คอยให้การช่วยเหลือทั้งคู่
ข้อมูลจาก