Sunday, 24 November 2024

ทนายตั้ม โดนอีก กกต.สมุทรสาคร เข้าเรือนจำสอบปมลงสมัคร สว.ทั้งที่ขาดคุณสมบัติ

12 Nov 2024
1206

ทนายตั้ม โดนอีก กกต.สมุทรสาคร เข้าเรือนจำสอบปมลงสมัคร สว.ทั้งที่ขาดคุณสมบัติ

 

วันนี้ (13 พ.ย.) นายพงษ์พชน ช่างทองคำ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวถึงการที่ กกต.สมุทรสาคร จะเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อสอบ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” จากกรณีมีผู้ร้องเรียนว่าขาดคุณสมบัติการเป็นผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) กลุ่ม 17 เนื่องจากทำงานภาคประชาสังคมไม่ถึง 10 ปี โดย นายพงษ์พชน กล่าวว่า วันนี้ประธานอนุกรรมการไต่สวน ที่สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดสมุทรสาคร ตั้งขึ้น จะเข้าไปสอบปากคำ นายษิทรา ในฐานะที่เคยเป็นผู้สมัคร สว.สมุทรสาคร และถูกร้องเรียน เมื่อถามว่า นายษิทรา เป็น สว.สำรองอันดับ 4 เหตุใดจึงต้องมาสอบปากคำช่วงที่ถูกคุมขังในเรือนจำ นายพงษ์พชน ชี้แจงว่า มีคนร้องและถ้าไม่สอบช่วงนี้

ก็ไม่รู้ว่าเขาจะออกมาเมื่อไหร่ และจากที่ดูข่าวนายษิทราบอกว่าจะไม่ประกันตัว หากรอไปจะเกินกรอบเวลาที่ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวนไต่สวนฯสืบสวน กำหนดไว้ว่าต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จเมื่อใด และกกต.ต้องขอขยายระยะเวลาไปเรื่อยๆ ก็ไม่ถูกต้อง นายพงษ์พชน กล่าวด้วยว่า

 

ทนายตั้ม โดนอีก กกต.สมุทรสาคร เข้าเรือนจำสอบปมลงสมัคร สว.ทั้งที่ขาดคุณสมบัติ

ก่อนที่นายษิทราจะถูกคุมขัง กกต.สมุทรสาคร เคยนัดหมายกับนายษิทราแล้วครั้งหนึ่ง แต่ต่อมาก็ขอเลื่อน แล้วไม่กี่วันจากนั้นเขาก็ถูกจับกุมตัว “เราเคยไปสอบเขามาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ กกต.ใหญ่มีมติให้สอบเพิ่มเติม จึงจึงต้องมีการสอบปากคำอีกครั้งตามมติ กกต.ซึ่งทาง กกต.สมุทรสาครมีหนังสือแจ้งไปยังนายษิทราและมีการนัดหมายกัน แต่ต่อมาเขาก็มีหนังสือมาขอเลื่อน” นายพงษ์พชน กล่าวอีกว่า ในการสอบสวนเรื่องนี้ กกต.สมุทรสาคร ได้มีการขยายระยะเวลามานานแล้วแต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ก็ไม่รู้ว่าเขาจะออกจากเรือนจำเมื่อใด ซึ่ง กกต.ก็ต้องให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงอย่างเต็มที่เพื่อความเป็นธรรม วันนี้จึงต้องขอเข้าไปสอบปากคำในเรือนจำ แต่หากทนายตั้มไม่สะดวก็แล้วแต่เขาเพราะอาจจะลำบาก เนื่องจากอยู่ระหว่างถูกคุมขัง

 

 

ทนายตั้ม โดนอีก กกต.สมุทรสาคร เข้าเรือนจำสอบปมลงสมัคร สว.ทั้งที่ขาดคุณสมบัติ

“ถ้า นายษิทรา ปฏิเสธว่า ไม่ได้ทำผิดตามที่มีผู้ร้องเรียน หรือปฏิเสธไม่ให้ปากคำ ก็เป็นสิทธิของเขา เราก็จะสรุปข้อมูลและข้อเท็จจริงตามนั้นไป และส่งไป กกต. กลาง แค่นั้นเอง เพราะเราก็ทำสุดเต็มที่ของเราแล้ว” สำหรับขั้นตอนภายหลังสอบปากคำนายษิทราแล้วคณะอนุกรมการฯจะมีการทำความเห็นและสรุปเสนอมายังตนเพื่อส่งมายัง กกต.กลาง เพื่อประชุมและมีมติต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หาก กกต.มีมติว่า นายษิทรา ขาดคุณสมบัติในการลงสมัครจากเหตุดังกล่าว นายษิทรา จะมีความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยกันได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภามาตรา 74 ที่กำหนดว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกไม่ว่าเพราะเหตุใด ได้สมัครรับเลือก ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี

ข้อมูลจาก