จากกรณี หนุ่มวัย 21 ปี ซิ่งกระบะชนร้านอาหาร ริมทางฟุตปาธ จำนวน 4 ร้าน บริเวณกำแพงสำนักงานสหกรณ์จ.อุดรธานี ทำให้คนที่นั่งกินอาหารถูกชนได้รับบาดเจ็บ 9 ราย เสียชีวิต 1 ราย คือนายฉัตรชัย อายุ 51 ปี ผจก.เต็นท์รถมือสอง
ล่าสุดวันที่ 25 ต.ค. 2567 มีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 คน คือ น.ส.แพท อายุ 17 ปี ด.ญ.ตาล อายุ 9 ขวบ ซึ่งทั้ง 2 คนมาช่วยปู่ขายบะหมี่ และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล รวมผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ จำนวน 3 ราย บาดเจ็บ 7 ราย
จากการตรวจสอบพบว่าบริเวณดังกล่าวถนนเป็นคอขวด รถที่ขึ้นมาจาก จ.หนองคาย ขึ้นมาอุโมงค์และถนนฝั่งซ้ายติดกับอุโมงค์ ต้องชะลอดูรถที่วิ่งมาจากอุโมงค์ เพื่อขับเข้าทาง 2 เลน อาจจะไม่ชินทาง ประกอบคนขับเมาและขับรถเร็วด้วยทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
โดยภาพวงจรปิดพบว่ารถกระบะที่ นายเกียรติศักดิ์ พุ่งออกมาจากอุโมงค์ด้วยความเร็วน่าจะเกินกว่า 120 ชม. ต่อชั่วโมง ก่อนจะพุ่งชนเสาไฟส่องสว่างและลอดเข้าไปช่องริมฟุตปาธ ชนร้านค้าริมทางจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากดังกล่าว
เบื้องต้นมีการเพิ่มแผงเหล็กกันบริเวณฟุตปาธ ส่วนการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิต สำนักงานคุ้มครองผู้ประสบภัยสามารถจ่ายให้ผู้บาดเจ็บ รายละ 35,000 บาท ส่วนผู้เสียชีวิตอาจจะได้เงินจากกองยุติธรรมจังหวัด
นายศิริศักดิ์ อายุ 30 ปี พ่อน้องตาล เผยว่า ปกติที่ร้านบะหมี่ของตนเองช่วงเวลาที่เกิดเหตุลูกค้าจะเยอะแต่เมื่อวานนั้นดีที่ไม่มีลูกค้าเลยตนกับลูกก็เลยนั่งเล่นโทรศัพท์ รู้สึกตัวอีกทีก็มีรถกระบะมาจากไหนไม่รู้พุ่งชน ตอนกระบะพุ่งเข้ามา
ตนไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก ตั้งสติได้ก็มองหาลูกมองหาหลานมองหาพ่อ และพยายาม เรียกคนนั้นคนนี้มาช่วย ตะโกนอยู่หลายสิบครั้งจนมีทีมกู้ภัยกู้ชีพมาช่วยนำตัวพ่อลูกหลานนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่เมื่อถึงโรงพยาบาลลูกสาวและหลานก็เสียชีวิต ส่วนพ่อก็ยังอาการโคม่าเนื่องจากพ่อเสียเลือดมาก สาเหตุที่ลูกเสียชีวิตคุณหมอแจ้งมาว่าม้ามแตก และมีเลือดคั่งในช่องท้อง กระดูกร้าวแตกหมด
สำหรับอุบัติเหตุครั้งนี้ส่วนตัวเป็นผู้สูญเสียเพราะรู้สึกเสียใจพูดอะไรไม่ได้ แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว หากจะเยียวยาหรือชดเชยในการสูญเสียครั้งนี้คิดเป็นเงินมูลค่ามากเท่าไหร่ก็ไม่สามารถชดเชยเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่คนที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุตนอยากให้รับกรรมและต้องชดใช้
ทั้งนี้ ตนเปิดบะหมี่ที่จุดเกิดเหตุข้างทางมานานหลายสิบปี ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงแบบนี้สักครั้ง จะมีแต่ก็แค่เฉี่ยวชน เล็กน้อยเท่านั้น ครั้งนี้ถือว่ารุนแรง จากนี้ตนก็ยังไม่แน่ใจว่าจะทำธุรกิจค้าขายแถวนี้ต่อหรือไม่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว นายเกรียงศักดิ์ อายุ 21 ปี มาสอบสวนเพิ่มเติมแม้จะตรวจวัดแอลกอฮอล์เจอเพียง 29 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ไม่เกินกว่ากฎหมายกำหนด แต่จากการตรวจสารเสพติดพบว่าฉี่สีม่วง พร้อมแจ้งข้อหาหนัก 6 ข้อหา
คือ1.ขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บบาดเจ็บสาหัสและถึงแก่ความตาย 2.ขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย 3.ขับขี่รถในขณะเมาสุราเป็น 4.ขับขี่รถเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย 5.เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย และ 6.ขับขี่รถยนต์โดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป