วันที่ 24 ต.ค. 2567 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชนชนฯ ชี้แจงประเด็นที่เพจ ออยศรีและผองเผือก ได้โพสต์ข้อความลักษณะกล่าวหาว่า มีลูกความคนสนิทจากฝรั่งเศสแจ้งความทนายดัง ฉ้อโกง 71 ล้านบาท จนทำให้หลายคนออกมาแสดงความคิดเห็นคาดเดาเชื่อมโยงไปหาทนายตั้ม ที่เคยออกมาชี้แจงเรื่องทรัพย์สินที่คนสงสัยว่าร่ำรวยผิดปกติหรือไม่
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทนายตั้ม บอกว่า ตัวเองเพิ่งจะเห็นเอกสาร โดยเรื่องนี้มองว่า น่าจะเป็นโอกาสของ บิ๊กเต่า ที่จะดึงสำนวนมาทำเอง แล้วหาทางดำเนินการกับตัวเอง แบบที่อยากทำมาตั้งนานแล้ว ซึ่งจากนี้ก็ต้องรอลุ้นว่าจะสำเร็จหรือไม่ ต้องบอกว่าไม่ใช่แค่บิ๊กเต่าที่จองกฐินตัวเอง รู้มาว่ามีคนกลุ่มหนึ่งจงใจจะออกมาเปิดเผยเรื่องนี้เพื่อโจมตีตนเอง โดยเฉพาะนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่เตรียมจะไลฟ์แฉตัวเองวันพรุ่งนี้ ก็ต้องคอยดูกันว่าใครจะหน้าแหก ก่อนท้าว่าใครหน้าแหกให้กินฉี่ 71 แก้วไปเลย
ส่วน ประเด็นเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่า โกงเงิน 71 ล้าน ทนายตั้มชี้แจงว่า จุดเริ่มต้นมาจาก ช่วง 2 – 3ปี ที่ผ่านมา ตนเองถูกหญิงไทยคนหนึ่งว่าจ้างให้ไป ดูแลเกี่ยวกับธุรกิจที่จะมาลงทุนในประเทศไทย รวมถึงมีเรื่องของศาลที่ประเทศฝรั่งเศส ที่จะต้องไปช่วยเรื่องกฎหมาย โดยเสนอค่าตอบแทนเดือนละ 300,000 บาท ทำให้ช่วงปีที่ผ่านมาจะเห็นว่า ตนเองเดินทางไปฝรั่งเศสบ่อยครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ก็เคยถูกเชื่อมโยงไปว่าตัวเองทำธุรกิจสีเทาด้วย ทั้งที่จริง ๆ แล้วตัวเองไปดูแลลูกความคนนี้
ต่อมา ช่วงต้นปีที่แล้วผู้หญิงคนนี้ก็เคยมาคุยกับตัวเองว่า เราเหมือนเป็นพี่น้องกัน เห็นว่าทำงานให้หลายอย่าง ไม่อยากให้เป็นเงินเดือนแล้ว ตนเองจึงเสนอขอเงินก้อนหนึ่ง จำนวน 2 ล้านยูโร เพื่อเอาเงินมาให้ครอบครัวและทำธุรกิจ โดยมีข้อตกลงว่า จะดูแลคดีที่ฝรั่งเศสและไทยให้ ซึ่งผู้หญิงคนนี้ก็ตกลง แต่หากโอนให้ที่ฝรั่งเศสจะเสียภาษี 40% ตัวเองจึงบอกให้ทำหนังสือสัญญาลักษณะเหมือนทำธุรกิจแทน ก่อนที่ผู้หญิงโอนเงินมาให้
จากนั้นช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตนเองมีปัญหากับเลขาของหญิงลูกความคนนี้ ซึ่งทางลูกความของตนเองก็บอกให้ไปเคลียร์ แต่ด้วยความที่มีอีโก้ก็ไม่ได้ไปเคลียร์ปัญหาอะไรกันทั้งนั้น จนกระทั่งเธอให้ทนายความส่งหนังสือมาขอเงินคืน ก่อนจะมีการเต้าข่าวเรื่องโกงเงินเพื่อดำเนินคดีกับตัวเอง
ก่อนหน้านี้เคยพูดคุยกับผู้หญิงคนนี้ว่า ตนเองจะนำเงินที่ได้ไปทำธุรกิจ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มลอตเตอรี่ออนไลน์ โดยยืนยันว่าเงินจำนวนดังกล่าวหญิงลูกความโอนมาให้เพราะสัญญาเกี่ยวกับเรื่องช่วยทำคดี ไม่ใช่เงินร่วมลงทุนทำธุรกิจด้วย ซึ่งเริ่มแรกมีการโอนเงินจากทางฝรั่งเศสมายังบัญชีไทยของหญิงลูกความ 3 ล้านยูโร ก่อนที่จะโอนมาให้ตัวเอง 2 ล้านยูโร หรือ 71 ล้านบาท ตามที่ตกลงกันไว้
ส่วนกรณีที่เจ้าของพัฒนาระบบแพลตฟอร์มขายหวยออนไลน์ ให้ปากคำตำรวจว่า ทนายตั้มติดต่อว่าจ้างพัฒนาระบบขายหวยโดยระบุว่ามีนายทุนว่าจ้างระบบ แต่ต่อมาบอกว่านายทุนยกเลิกจึงไม่สามารถจ่ายเงินค่าจ้างได้ ทนายตั้มบอกไม่เป็นความจริง เด็กกลุ่มนี้เคยเอาแอปฯ ที่พัฒนาแล้วเสร็จมาให้ตัวเองฟรี ๆ เชื่อว่าไปพูดกับตำรวจแบบนั้นแค่ต้องการเอาตัวรอดเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูล รายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand