หลายคนคงได้เห็นข่าวทางโทรทัศน์ มาบ้างแล้ว สำหรับ “น้องต๋อง” เด็กชายผมจุกที่สู้ชีวิต แต่ละวันจะต้องปั่นจักรยานขายผักสดเลี้ยงคุณย่าและทวด และวันนี้ทีมงานจะพาทุกคนไปรู้กับเด็กชายยอมกตัญญูคนนี้กันครับ
“น้องต๋อง” เป็นเด็กชายวัย 10 ขวบที่ อ.ระโนด จ.สงขลา อยู่กับคุณย่าวัย 56 ปีที่มีปัญหาด้านสุขภาพ และคุณทวดหญิงที่อายุ 89 ปี เนื่องจากอายุและสุขภาพที่แทบจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ทำให้น้องต๋องกลายมาเป็นเสาหลักของครอบครัว ย้อนกลับไปหลายปีก่อนทวดชายเป็นคนปั่นจักรยานขายของ โดยน้องต๋องเป็นคนช่วยขายตั้งแต่อายุยังน้อย ต่อมาด้วยความชราทำให้ทวดปั่นจักรยานไม่ไหว น้องต๋องในที่กำลังเรียนชั้น ป.1 ต้องรับหน้าที่ปั่นขายแทน ส่วนคุณย่าทำหน้าที่ดูแลสวนผักที่ปลูกเอง และเก็บมาทำเป็นถุงให้ต๋องได้เอาไปขาย
ต๋องทิ้งชีวิตวัยเด็กไปกับการช่วยหารายได้ให้กับครอบครัว และดูแลทุกคนในบ้าน ต๋องต้องตื่นตั้งแต่ 6 โมงเพื่อเอาผักสดชนิดต่างๆที่คุณย่าได้เก็บเตรียมไว้ให้ออกไปขาย โดยจะมีผักสดตามฤดูกาลเป็นของพิเศษ เช่นสะตอ เห็ด มะเขือต่างๆ ผักใบเขียวหลากหลายชนิด พริก และอื่นๆ อีกมากมาย โดยขายผักสดในราคากันเองแค่ถุงละ 10 บาท ถ้าเป็นผักลวกพร้อมน้ำพริก จะขายเพียง 20 บาทเท่านั้น และทำแบบนี้จนกลายหนึ่งในกิจวัตรประจำวันไปแล้ว
ด้วยความเป็นเด็ก บางครั้งก็งอแงบ้าง อยากอยู่บ้าน อยากเที่ยวเล่น แต่ด้วยหน้าที่ที่ต้องทำ และคำสอนของคุณย่าทำให้ต๋องเข้าใจ ย่าบอกกับต๋องว่า “ถ้าต๋องไม่ขายของ ครอบครัวก็จะไม่มีเงินไปซื้อของและอาหารกิน” ด้วยความเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย ต๋องก็เข้าใจและออกไปทำหน้าที่โดยไม่งอแงอีกเลย
ด้วยความเป็นเด็กน่ารักและกตัญญู ทำให้มีคนชื่นชมตลอดเวลา ต๋องมีลูกค้าประจำมากมาย ทุกคนอยากช่วยเหลือและอุดหนุน บางคนใจดีหน่อยก็ให้ทิปพิเศษ 5 บาท 10 บาท เพื่อซื้อขนมกิน
แต่ละวันต๋องขายผักได้ประมาณ 500 บาท ใช้เวลาแค่ 40 นาทีก็ขายหมดแล้ว กลับบ้านไปก็เอาเงินไปให้คุณย่า ส่วนทิปที่ได้ก็เอาไปหยอดกระปุกสะสมไว้ จากนั้นก็อาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียน
พอเลิกเรียนก็รีบกลับบ้านลงมือทำการบ้านต่อ วันไหนทำการบ้านเสร็จเร็วก็จะลงสวนผักไปช่วยคุณย่าดูแลผักในสวนต่อ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์คุณย่าจะออกไปขายผักแถวตลาดนัดริมน้ำ เพราะมีคนเยอะ
ทางคุณย่าก็ได้พูดออกมาว่า “ย่าอยากให้ต๋องรู้จักหาเงินด้วยตัวเอง เผื่อวันไหนย่าเป็นอะไรไป ต๋องจะได้เลี้ยงตัวเองได้ หลังจากไปออกรายการ ทีมงานคนค้นฅนกับวิทยาลัยเทคนิคสงขลา ได้มอบจักรยานพ่วงข้างสำหรับปั่นขายผักคันใหม่กับน้องต๋อง และในปีนี้เองสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ตลาดเงียบเหงา ผู้คนไม่กล้าออกจากบ้าน จนทำให้ต๋องขายผักไม่ได้ และรายได้ก็ลดลงทันที นี่คือครอบครัวที่ได้รับผลกระทบอย่างแท้จริง…
หลังจากเป็นข่าวอีกครั้ง ตอนนี้มีหน้าที่หลายฝ่ายเข้าช่วยเหลือต๋องและครอบครัวอีกครั้ง ทุกคนต่างชื่นชมเด็กชายคนนี้ว่าเป็นเด็กยอดกตัญญู สู้ชีวิต แม้ว่าครอบครัวจะลำบากมากแค่ไหน แต่ไม่เคยเลยที่จะออกมาร้องขอความช่วยเหลือจากใคร
น้องต๋องได้บอกอีกว่า “ผมต้องการหาเงินเพื่อดูแลคุณย่า และซื้อขนม ช่วงนี้ขายของได้ยาก คนน้อยลงแต่ก็จะออกไปขายทุกวัน”
ด้านคุณย่าเองก็ได้บอกว่าอีก “ครอบครัวไม่ได้ลงทะเบียนรับเงิน 5,000 จากรัฐบาล เพราะครอบครัวยังพอมีรายได้จากที่น้องต๋องไปขายของก็พอประทังชีวิตไปได้