Thursday, 18 April 2024

ชาวบ้านจ.ยะลา ปลูกยอดมะม่วงหิมพานต์ขาย ปลูกง่าย โตเร็ว แค่ 2 ปี ให้ผลผลิตนาน 10 ปี

ชาวบ้านยะลาหันมาปลูกมะม่วงหิมพานต์ ผักพื้นบ้าน ขายยอดได้ทั้งปี มีรายได้ ประชาชนนิยมชะลอความแก่ ต้านอนุมูลอิสระ ตลาดรองรับสูง

ในช่วงนี้ผักพื้นบ้านอย่างยอดมะม่วงหิมพานต์ กำลังได้รับความนิยมจากประชาชนทุกกลุ่มวัยในพื้นที่จังหวัดยะลา ไม่เพียงแต่เฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ แต่กลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน ก็หาซื้อไปไว้รับประทานเป็นผักเครื่องเคียงคู่กับน้ำพริกกันจำนวนมาก เนื่องจากได้มีการวิจัยระบุว่ายอดมะม่วงหิมพานต์ จะมีสารต้านอนุมูลอิสระ สารชะลอความแก่ และป้องกันโรค ม ะ เ ร็ ง ไ ด้

นายวานิช ศรีสุวรรณ และนางสุดใจ หนูลาย ชาวบ้านอำเภอเมืองยะลา ซึ่งได้ปลูกมะม่วงหิมพานต์ร่วมกับผักพื้นบ้านอื่น ๆ บอกว่า ปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์มาหลายปีแล้ว มีกว่า 20 ต้น โดยจะเก็บยอด ทำเป็นมัด ๆ ไปขาย ๆ มัดละ 5 บาท รวมกับผักพื้นบ้านอื่น ๆ ที่ปลูกไว้ไปขายที่ตลาดเกษตรของสำนักงานเกษตรจังหวัดยะลา โดยเฉพาะยอดมะม่วงหิมพานต์ ปลอดสารพิษ ช่วงนี้ จะขายดีมากเก็บไปขายเท่าไหร่ก็หมด มีรายได้ทุกวัน วันละ 50-100 บาท คนทุกเพศทุกวัยนิยมรับประทานมาก โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานจะมาหาซื้อกันมาก เนื่องจากมีสารชะลอความแก่ ป้องกันโ ร ค ต่ า ง ๆ ได้

สำหรับการปลูก การดูแลก็ไม่ยาก จะใช้เมล็ดมะม่วงหิมพานต์มาเพาะใส่ถุง พอเริ่มเป็นต้นก็นำไปลงปลูกได้เลย 3 เดือน ยอดก็จะเริ่มแตกเก็บผลผลิตได้ แต่ถ้าทิ้งไว้ 1 ปี ก็จะมีผลผลิตเต็มที่ ส่วนการบำรุง ดูแล ก็ต้อง รดน้ำ ใส่ปุ๋ยคอกมูลไก่ มูลวัวให้ จะช่วยให้ต้นเจริญเติบโตแตกยอดอ่อน นอกจากนี้ ก็จะต้องหมั่นตัดแต่งกิ่ง ใบที่อาจจะเป็นโรคใบด่าง และมีเพลี้ยออก

มะม่วงหิมพานต์เป็นไม้ปลูกครั้งเดียวที่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทั้งปี ถ้าดูแลรักษาดีก็จะมีผลผลิตไปถึง 10 ปี ผู้ที่มีพื้นที่ปลูกก็สามารถจะปลูกไว้ข้างบ้าน ริมรั้ว เพื่อรับประทานในครอบครัว เหลือจากรับประทานก็สามารถนำไปขายได้ ส่วนตลาดก็ไม่มีปัญหา เนื่องจากสำนักงานเกษตรจังหวัดยะลา ได้เปิดตลาดสำหรับรองรับผักพื้นบ้านอยู่แล้ว รวมทั้งยังสามารถนำไปขายที่ตลาดสดได้ ส่วนการรับประทานนั้นก็สามารถนำไปรับประทานกับน้ำพริก ขนมจีน ได้หลายอย่าง

ที่มา สทท.ยะลา