Saturday, 27 July 2024

ในชีวิตคนเรา เข้าใจแค่ 2 สิ่งนี้ก็พอ แค่นี้ก็มีความสุข

ชีวิตคนเรา เข้าใจแค่ 2 สิ่งนี้ก็พอ แค่นี้ก็มีความสุขมากแล้ว
สิ่งแรก แค่คุยกับคนที่เข้าใจคุณ ในเรื่องที่พวกคุณเข้าใจ คนที่ไม่เข้าใจคุณ คุณสามารถมีอิทธิพลต่อเขา แต่คุณไม่จำเป็นต้องร้องขอ โลกใบนี้มีคนมากมาย มีคนแค่ 1% ที่เข้าใจคุณก็เพียงพอแล้ว เมื่อมารวมตัวกันจะมีพลังที่แข็งแกร่ง เลือกคนที่ศีลเสมอกัน ชีวิตก็จะเรียบง่ายและมีความสุข

สิ่งที่สอง เวลาได้ฟังสิ่งที่ไม่เข้าใจและไม่รู้ เราจำเป็นต้องมีหัวใจของการสำรวจและการยอมรับ เพราะว่าพวกเขาอาจจะยืนอยู่ ในตำแหน่งที่เราไม่เคยไป สิ่งที่พวกเขาเห็น เราไม่เคยเห็น เปิดความคิด เปิดหัวใจ ยอมรับสิ่งที่แตกต่าง เหมือนเด็ก ๆ ที่สงสัยอยากรู้อยากเห็น

ในชีวิตของเรา ต้องเป็นตัวของตัวเอง คนที่ชอบคุณยังไงก็ชอบคุณ คุณที่ไม่ชอบคุณก็ปล่อยเขาไว้ตรงนั้น ไม่ต้องโกรธแค้น ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องกลัว ยอมรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วคุณจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข

มีคนบอกว่า “อยากรู้จักใครสักคน ให้ไปดูว่าเพื่อนเขาเป็นยังไง” คน ๆ นึงจะเป็นยังไง ครึ่งหนึ่งมาจากความรู้และสังคมที่เขาอยู่ อีกครึ่งมาจากครอบครัวและเพื่อน และหลาย ๆ ครั้งที่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากสิ่งชี้นำ พูดง่าย ๆ ก็คือ คุณอยู่กับคนแบบไหน คนก็จะมีชีวิตแบบนั้น

Back of happy young woman standing on green field enjoy with fresh air.

1. อย่าเสียเวลากับคนที่มีพลังงานลบ
นักเขียนคนหนึ่งกล่าวไว้ว่า “พลังงานลบจะทำให้มองเห็นแต่ด้านไม่ดีของคนอื่น ด่าว่าความไม่ยุติธรรมของสังคม พลังงานบวกจะบอกคุณหลังคุณพูดจบว่า แม้ว่าจะลำบาก คุณสามารถพยายามจะเปลี่ยนมันได้” บางคนมองโลกในแง่ดี เวลามีคนที่มีพลังงานลบรอบ ๆ ตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ

คุณจะเห็นว่าเขาจะแสดงอาการเหนื่อยล้าในไม่ช้า นั่นเป็นเพราะอารมณ์ได้รับอิทธิพลจากคนอื่นได้ง่าย เมื่อต้องอยู่ในบรรยากาศเช่นนี้อยู่เสมอ จึงมักเกิดภาวะซึมเศร้าได้ง่าย ถ้าเป็นไปได้ ให้หลีกห่างออกจากคนที่คิดลบ นี่เป็นทางเลือกในชีวิตที่คุ้มค่า

2. เข้าใกล้คนที่ให้พลังบวกกับคุณ
เพื่อนแท้สามารถให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และมีแพสชั่นในการใช้ชีวิต เหมือนประโยคที่ว่า “ชื่นชมกันและกัน ให้กำลังใจกันและกัน ผู้คนต้องการมีชีวิตที่มหัศจรรย์ สุดท้ายยังไงก็ต้องอาศัยความแข็งแกร่ง”

เพราะว่าการอยู่กับคนที่ทำให้คุณเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี สำคัญมาก แต่การอยู่กับคนที่สามารถทำให้ทั้งคู่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น สำคัญกว่า

3. คุณต้องมีแหล่งกำเนิดแสงในใจตัวเอง
หากคุณต้องรับผิดชอบต่อชีวิตตัวเองและเพื่อน วิธีที่ดีที่สุดคืออย่าหวังว่าคนอื่นจะสามารถให้แสงสว่างแก่คุณ แต่คุณต้องมีแหล่งกำเนิดแสงในใจตัวเอง และแผ่กระจายให้คนอื่น เหมือนที่มีคนบอกว่า หากคุณพิการ นั่นอาจจะไม่ใช่ความผิดของคุณ

แต่การบ่นว่าสังคม เรียกร้องหาความเมตตาจากคนอื่น จะไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ คนเราต้องมองโลกในแง่บวก และทำประโยชน์สูงสุดจากสถานะที่เป็นอยู่ คนที่วิ่งตามผีเสื้อจะได้เห็นดอกไม้สวยงาม ส่วนคนที่ตามแมลงวันก็จะเห็นแต่สิ่งสกปรก