Saturday, 27 July 2024

เรียนพี่น้อง ใครขับรถไปเสียที่ไหน โทรเรียกได้ฟรี 24 ชั่วโมง

ก่อนอื่นแอดมิน เพจธรรมะเกษตรก้าวหน้าขอกราบสวัสดี ท่านผู้อ่านทุกที่ติดตามผลงานของเรามาตลอด ใกล้จะถึงเทศกาลหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน เผื่อใครที่จะเดินทางแล้วรถเสียระหว่างทาง เรามีหน่วยงานของตำรวจช่างในโครงการ พระราชดำริ

ใครขับรถ ไปเสียที่ไหน โทรแจ้ง ได้ตาม หมายเลขดังต่อไปนี้ โครงการหน่วย ตำรวจช่าง ในโครงการ พระราชดำริ ช่วยได้ทุกที่ โทร. 02-354-6324 (โทรติดนะคะ แจ้งได้) , 02-3546089 โครงการหน่วย ตำรวจช่าง ในโครงการ พระราชดำริ ช่วยได้ทุกที่

จะสอบถาม อาการแล้วเตรียม มาช่วยให้สามารถ ไปต่อได้ จ่ายเงินเฉพาะ ค่าอะไหล่ ที่นำมาให้ ไม่รับเงินค่าอื่นๆ แค่ขอถ่ายรูป เก็บข้อมูล ไว้ประชาสัมพันธ์ หน่วย ข้อสำคัญ คือ ปลอดภัยอย่างยิ่ง ทั้งนี้ โดยแบ่งการทำงานของตำรวจจราจรในโครงการพระราชดำริ จะเป็น 3 โซน ได้แก่
1 โซนเหนือ ได้แก่พื้นที่ ดินแดง มะกะสัน พญาไท เพชรบุรี แยกพระรามเก้า และรามคำแหง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจช่างประจำอยู่ 7 นาย
2 โซนใต้ ได้แก่พื้นที่ ถนนพระราม 1 และถนนพระราม4 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจช่างประจำอยู่ 4 นาย
3 โซนฝั่งธนบุรี ได้แก่พื้นที่ แยกบางพลัด ถนนสิรินธร ถนนบรมราชชนนี มีเจ้าหน้าที่ตำรวจช่างประจำอยู่ 4 นาย

ทั้งนี้ หากประชาชนมีปัญหาเร่งด่วนมีผู้ป่วยหรือคนท้องแก่ต้องการไปโรงพยาบาลในเวลาเร่งด่วน หรือรถจอดเสีย ต้องการความช่วยเหลือ แจ้งไปได้ที่ สายด่วนบก. 02 หมายเลข 1197 หรือเบอร์โทรของโครงการ หมายเลข 02-354-6324
หรือเข้าไปชม แฟนเพจ ได้ที่นี่ คลิก httpsa//www.facebook.com/royalthaitrafficpolice
หลายคนอาจเดินทางไปต่างจังหวัด ช่วงปีใหม่ สงกรานต์หรือวันหยุดยาวในเทศกาลต่าง ๆ เบอร์แจ้งเหตุฉุกเฉินของแต่ละจังหวัด น่าจะติดตัวไว้จ้า หมายเลขโทรศัพท์ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ของแต่ละจังหวัด

1 อุบลราชธานี 0-4535-2600-09
2 นครราชสีมา 0-4442-0250-99
3 ขอนแก่น 0-4324-0250-98
4 เชียงใหม่ 0-5392-0750-51
5 พิษณุโลก 0-5523-6400
6 นครปฐม 0-3424-0650
7 สุราษฎร์ธานี 0-7727-7600
8 อุดรธานี 0-4221-5750-99
9 ชลบุรี 0-3893-2600-08
10 สงขลา 0-7431-7301-30

11 ปทุมธานี 0-2598-8191
12 พระนครศรีอยุธยา 0-3524-9750
13 ฉะเชิงเทรา 0-3850-0099
14 ศรีสะเกษ 0-4582-9799
15 ร้อยเอ็ด 0-4361-9799
16 เชียงราย 0-5391-0788
17 นครสวรรค์ 0-5621-9099
18 นครศรีธรรมราช 0-7530-4600
19 พัทลุง 0-7460-9977
20 กาญจนบุรี 0-3452-7600-49

21 ลำปาง 0-5423-7090
22 ระยอง 0-3892-8090
23 สภ.หัวหิน 0-3261-8090
24 ภูเก็ต 0-7636-0790
25 นราธิวาส 0-7351-7990
26 ราชบุรี 0-3271-9798
27 กาฬสินธุ์ 0-4380-9799
28 เพชรบูรณ์ 0-5671-7799
29 ปัตตานี 0-7334-5999
30 สระบุรี 0-3624-0698

31 สมุทรสาคร 0-3441-9780
32 สมุทรปราการ 0-2338-0090
33 จันทบุรี 0-3931-9790
34 ยะลา 0-7322-0890
35 ตรัง 0-7520-1990
36 กระบี่ 0-7562-7900
37 กำแพงเพชร 0-5571-8490
38 ลำพูน 0-5356-9790
39 บุรีรัมย์ 0-4460-4090
40 นครพนม 0-4253-9790

41 นนทบุรี 02-528-7490
42 สุพรรณบุรี 035-514-000
43 ชัยนาท 056-459-639
44 ลพบุรี 036-418-900
45 ชัยภูมิ 044-815-000
46 พิจิตร 056-609-739
47 ตาก 055-518-000
48 สุโขทัย 055-609-739
49 แพร่ 054-539-739
50 พะเยา 054-409-739

51 น่าน 054-683-000
52 เลย 042-808-739
53 หนองบัวลำภู 042-318-739
54 หนองคาย 042-415-000
55 สกลนคร 042-700-739
56 มุกดาหาร 042-629-739
57 ยโสธร 045-709-739
58 สุรินทร์ 044-710-739
59 สระแก้ว 037-240-740
60 ปราจีนบุรี 037-239-098

61 นครนายก 037-307-000
62 สมุทรสงคราม 034-719-740
63 เพชรบุรี 032-709-740
64 ชุมพร 077-529-739
65 พังงา 076-401-439
66 สตูล 074-709-739
67 ระนอง 077-819-739
68 สิงห์บุรี 036-509798-99
69 อ่างทอง 035-617098-99
70 ตราด 039-552900-01
71 อำนาจเจริญ 045-519200-01
72 มหาสารคาม 043-719698-99

โครงการตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ” อีกหนึ่งแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเข้าใจความทุกข์ยากของราษฎร พระราชทานแนวทางการปฏิบัติช่วยบรรเทาปัญหาจราจร 5 ประการ คือ
1 แสวงหาแนวทางให้ผู้ใช้รถใช้ถนน เคารพกฏจราจร และมีมารยาท
2 ใช้รถจักรยานยนต์ เป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วแก้ปัญหาจุดที่รถติดเสมือน “รถนำขบวน” โดยรถจักรยานยนต์จะเข้าไปแก้ไขปัญหาทำให้ขบวนรถเคลื่อนที่ไปได้
3 ใช้รถจักรยานยนต์ดูแลการจราจรบนถนน ให้รถเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ตามความเหมาะสม
4 ถนนที่เป็น “คอขวด” ให้รถจักรยานยนต์เข้าไปแก้ไข ให้รถเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ เสมือนเทน้ำออกจากขวด และ
5 ให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาจราจร

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้พระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ 23 ล้านบาท แก่กรมตำรวจในสมัยนั้น ให้จัดหารถนำขบวนให้แก่ประชาชน เพื่อแก้ปัญหาจราจรในชั่วโมงเร่งด่วน พร้อมยังพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์อีก 8 ล้านบาท ให้กรมตำรวจในขณะนั้น นำไปซื้อรถจักรยานยนต์เป็น “หน่วยเคลื่อนที่เร็ว” ทำหน้าที่ “สายตรวจจราจร” รวมทั้ง ค่าใช้จ่ายในการซื้อวิทยุสื่อสาร ค่าเบี้ยเลี้ยง ฯลฯ

กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ในฐานะผู้รับสนองพระราชดำริ ได้จัด “สายตรวจจราจร” ปฏิบัติหน้าที่ตามโครงการ และเพื่อให้การปฏิบัติตามแนวพระราชดำริมีความเหมาะสม และมีเอกภาพ ในการบังคับบัญชา จึงอนุมัติให้จัดตั้งกองกำกับการฝ่ายปฏิบัติการจราจรขึ้นตรงกับกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ภายหลังมีการปรับโครงสร้างใหม่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็น กก.๖ (ปฏิบัติการพิเศษ จราจร) บก.จร. โดยมีอัตรากำลังพล ๓๒๙ นาย มีรถยนต์ ๑๑ คัน รถจักรยานยนต์ ๒๑๑ คัน

โครงการจราจรพระราชดำริ นับเป็นความโชคดีของคนไทย ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยทุกข์สุขของประชาชนแทบทุกด้าน และแนวทางของพระองค์ทรงได้แก้ไขปัญหาสำคัญให้คนเมืองหลวง จนสามารถคลี่คลายลงได้ จึงนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่ประชาชนไม่มีวันรู้ลืม

เรียบเรียงโดย เฟจธรรมะเกษตรก้าวหน้า