สวัสดีครับท่านสมาชิกทุกท่าน วันนี้ทางเพจแอดมินขอนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจที่หลายๆคนคงรู้จักตลกชื่อดังคนนี้เป็นอย่างดี สำหรับเท่ง เถิดเทิง ดาวตลกชื่อดังระดับชั้นนำแนวหน้าของเมืองไทย ที่ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ต่างรู้จักด้วยการแสดงตลกมามากมายนับครั้งไม่ถ้วน สร้างเสียงหัวเราะให้แก่ผู้ชมมาโดยตลอด
คุณเท่ง เถิดเทิง หรือ ชื่อจริง พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ เด็กสุโขทัยที่เดินทางเข้ามาทำงานในกรุงเทพ ต่อสู้ดิ้นรนจนได้เป็นตลกชื่อดังเมื่อรวยแล้วก็ไม่ได้ลืมถิ่นฐานบ้านเกิด ยังคงใช้ชีวิตเรียบง่าย ติดดิน และคิดถึงกลิ่นดิน กลิ่นฟาง เสมอ
แม้ว่าเขาจะมีบ้านหลังใหญ่โตในเมืองหลวง แต่เมื่อไหร่ที่มีเวลาว่าง จะพาครอบครัวเดินทางไปพักผ่อนที่บ้านสวนอีกหลังหนึ่งในจ.นครนายก ซึ่งซื้อมาได้หลายปีแล้วด้วยที่ดินกว่า 4 ไร่ที่เขาซื้อเอาไว้ และปลูกบ้านไม้ขนาดย่อมไว้ 1 หลัง รวมไปถึงปลูกผัก ผลไม้ เช่น มะยงชิด มะม่วง มะปราง มังคุด เงาะ ฯลฯพี่เท่งซื้อมาในราคา 3.9 ล้านบาท ซึ่งตอนที่ซื้อ ได้พาครอบครัวมาเที่ยงน้ำตกแถวนั้น และภรรยาก็พามาดูที่ดิน พอเห็นก็ชอบ เพราะรู้สึกร่มรื่น เย็นสบาย มีสวนด้วย
ตอนนั้นยกมือไหว้เจ้าที่เจ้าทาง บอกว่า ถ้าที่ดินนี้จะเป็นของเรา ขอให้คุยและเจรจาเสร็จใน 1 วัน ซึ่งปรากฏว่า คุยแค่ 1 วันจริงๆ วางเงินและโอนที่กันแบบไม่ติดขัด ไม่มีปัญหาอะไรเลยช่วงแรกที่มาพักที่นี่ ก็จะเห็นชาวบ้านขับรถผ่านไปมา ตะโกนเรียกชื่อทั้งวัน แต่พออยู่นานๆ ไปก็ชิน คุ้นเคยกับคนแถวนั้นเป็นอย่างดี เดินถอดเสื้อออกไปนอกบ้าน ทักทายคนอื่นได้ปกติเวลาว่างจากงาน ก็จะพาครอบครัวมาอยู่ที่นี่ โดยเฉพาะช่วงวันหยุด เพราะชอบความสงบ และธรรมชาติของบ้านที่นี่
กิจกรรมที่ทำกันบ่อยๆ คือ กวาดใบไม้ เผาใบไม้ ปลูกผัก ปลูกผลไม้ ปลูกต้นไม้ ไว้รอบๆ ตัวบ้าน ถ้ามีเวลาว่างก็จะช่วยภรรยาแกะเนื้อปลานิล สำหรับทำขนมจีนแม่มาลา(ขนมจีนที่ขายอยู่ในตลาดเท่ง เถิดเทิง จ.นครนายก)
คุณเท่งกล่าวไว้ว่า อยู่ที่นี่เรียบง่าย สงบ สบายใจ สบายปอด ไม่ค่อยชอบกรุงเทพ แต่เพราะมีหน้าที่ที่ต้องทำเพราะห่วงลูก แต่เวลามีเงินก็ไม่ค่อยได้ใช้หรอก ใช้ไม่เป็น แต่งตัวไม่เป็น เดินห้างไม่เป็น ไม่รู้จะซื้ออะไรชอบอยู่ที่บ้านสวนมากกว่า มาอยู่ที่นี่เดินเท้าเปล่าก็ได้ มาทีไรไม่ค่อยอยากกลับกรุงเทพฯบ้านไม่จำเป็นต้องหลังใหญ่โต แค่ได้เห็นหน้าครอบครัวที่อบอุ่น ไม่อด อยากกินอะไรก็ได้กิน แค่นี้ก็พอแล้ว
บ้านสวนแห่งนี้ คุณเท่งคิดว่าจะเอาไว้อยู่ในบั้นปลายชีวิตหรืออาจจะไปสร้างบ้านหลังเล็กๆ ริมแม่น้ำแควบนที่ดินของตัวเองในจังหวัดกาญจนบุรี แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ จะเกษียณตอนไหน อยากจะเล่นตลกให้กับคนดูไปเรือ่ยๆ ก่อน สัก 70
ในสุดท้ายนี้ผมอยากฝากทุกๆ ท่านว่าชีวิตของเรานั้นมองให้มีคุณค่าในทุกๆ วัน ทำทุกๆ วันให้เรามีความสุขและคิดว่าทุกๆ วันเป็นวันของเรา ไม่ว่าชีวิตจะเจออะไรในแต่ล่ะวันคิดว่าทุกๆ วันมีบทเรียนให้ลองฝึกทำ ชีวิตในการทำงานของเราในแต่ล่ะวันแฝงไปด้วยความเครียด ความกดดัน ทุกๆ คนอดทนที่เผชิญกับมันและเชื่อว่ามันผ่านไปได้
สุขภาพมันแน่นอนครับมันสำคัญอย่างมาก ทุกๆ คนอยากแก่ไปสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคภัย และมีความสุข ถ้าเราไม่หันมารักษาตัวเองทั้งจิตใจและร่างกายเราก็จะไม่มีความสุข อาจทำให้ในวัยเกษียณที่ทุกๆ คนฝันถึง คงได้เจ็บป่วยรักษาตัวในวัยเกษียณ ทั้งๆ ที่เราอยากจะมีความสุขในตอนนั้นมากที่สุด ” ปริมาณของ “ความสุข” ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนของ “สิ่งดีๆ” ที่เราได้รับ แต่อยู่ที่ “มุมมอง” ของเราที่มีต่อ “สิ่งเหล่านั้น” สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ
ขอบคุณแหล่งที่มา : secretbook
เรียบเรียงโดย ธรรมะเกษตรก้าวหน้า