ในชีวิตของคนเราทุกคน ไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆเพราะอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ แม้แต่เรื่องที่เราไม่เคยคาดคิดกันมาก่อนก็ยังเกิดมาแล้ว
![](https://readykids.info/wp-content/uploads/2020/08/คน.png)
อย่างโควิดที่ส่งผลกระทบไปแถบจะทุกประเทศเป็นเวลาหลายเดือน จนเศรษฐกิจย่ำแย่ไปทั่วโลกในอนาคตที่ธนาคารทั่วโลกจะให้ดอกเบี้ยเงินฝาก 0% ซึ่งดูเหมือนว่าในบ้านเราก็ใกล้จะถึงจุดนั้นแล้วเช่นกัน เราทุกคนควรจะใช้ชีวิต ใช้จ่ายเงินกันอย่างไร หรือต้องปรับตัวต้องเจอกับอะไรบ้าง มาดูกันว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
1. คำว่า อิสรภาพทางการเงิน จะเอื้อมถึงได้ยากขึ้น
เดี๋ยวนี้ใครๆก็ชอบพูดเรื่อง อิสรภาพทางการเงินกันมากขึ้น หรือที่ชอบเรียกกันว่า Passive Income เป็นการที่มีรายได้เข้ามามากกว่ารายจ่าย แบบที่เราไม่ต้องทำงาน เป็นการสร้างอิสรภาพทางการเงินให้ตัวเอง ซึ่งคนสมัย
ก่อนจะนิยมฝากเงินเพื่อหวังจะเอาดอกเบี้ยได้บ้าง แต่ถ้ามองดูยุคปัจจุบัน เราคงทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว และยิ่งลงทุนผิดที่กลายเป็นว่าเราจะต้องทำงานไปตลอดชีวิต และไม่มีคำว่า “อิสรภาพทางการเงิน” ให้เราได้เข้าใกล้ได้เลย
![](https://readykids.info/wp-content/uploads/2020/08/dFQROr7oWzulq5FZUEsQCg0kQKcx81Nwr7a8WBpiLm85NAGN0b2TMifd8HtqY1emE7L-1024x576.jpg)
2. เงินจะหายากมากขึ้น
ลองดูทุกวันนี้สิ ว่าคนเริ่มจับจ่ายใช้สอยกันน้อยลงขนาดไหน นี่ยังไม่รวมกับวิกฤตโควิด ที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้จนส่งผลกระทบในวงกว้าง และหากในอนาคตที่ธนาคารทั่วโลกจะให้ดอกเบี้ยเงินฝาก 0% เท่ากับคนที่ฝากเงิน
ในธนาคารจะไม่ได้ดอกเบี้ยเลย คุณรู้ไหมว่า เงินที่สามารถงอกเงยจากระบบดอกเบี้ยนั้น มีถึงแสนล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว และถ้าเงินส่วนนี้หายไปกลายเป็น 0 คิดภาพดูสิว่าเงินหายไปจากเศรษฐกิจ ชีวิตประจำวันขนาดไหน เมื่อเงินหายไป กำลังการซื้อก็ลดลงด้วยเช่นกัน
3. ผู้สูงอายุต้องกลับมาทำงาน
ปกติแล้วในวัยสูงอายุ คนวัยนี้ส่วนใหญ่ก็มักจะวางแผนก่อนวัยเกษียณ เพื่อให้มีเงินเก็บเงินก้อนไว้ใช้หลังเกษียณได้มากเพียงพอที่จะสามารถฝากธนาคาร และหวังเก็บดอกเบี้ยกินได้บ้าง แต่ถ้าหากเงินฝากไม่มีดอกเบี้ยก็จะทำให้เงินก้อนค่อยๆถูกใช้ไปจนหมดและก็กลายเป็นว่าผู้สูงอายุต้องกลับมาทำงานเพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเองอีกครั้ง
![](https://readykids.info/wp-content/uploads/2020/08/14298631821429863194l.jpg)
4. ความเหลื่อมล้ำจะมากขึ้น
หากเงินฝากไม่มีดอกเบี้ย ก็จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคมเพิ่มมากขึ้นได้เช่นกัน คนรวยที่มีอยู่เพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ก็จะยิ่งรวยขึ้น ในขณะที่คนยากจน คนที่หาเช้ากินค่ำไม่มีเงินเหลือเก็บ และยิ่งการวางแผนทางการเงินไม่มี หรือลงทุนไม่เป็น ไม่มีความรู้ในการลงทุนให้เงินงอกเลยได้เลยก็ต้องทำงานหนักแบบนี้ไปตลอดชีวิต
![](https://readykids.info/wp-content/uploads/2020/08/14249592691424959992l-1024x589.jpg)
5. เงินจะอยู่เหนือคนมากยิ่งขึ้น
เมื่อเงินหายากมากขึ้น ก็ยิ่งมีค่ามากขึ้นและคนก็จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมา โดยที่จะไม่สนว่าต้องทำให้ใครรู้สึกแย่ เรียกว่าไม่แคร์กับผลที่ตามมาเลยก็ว่าได้
![](https://readykids.info/wp-content/uploads/2020/08/shutterstock_1032260494.jpg)
6. หลังจากยุคดอกเบี้ย 0% ทุกอย่างจะแย่ลงไปอีก
นั่นเป็นเพราะว่าเงินจะล้นระบบ แต่ไม่ใช่เงินมีมากสำหรับทุกคนหรอกนะ เมื่อเงินล้นระบบ จะล้นไปอยู่ที่มือคนรวยซึ่งคนรวยมีจำนวนที่น้อยมากๆเมื่อเทียบกับคนยากจน จึงเกิดการใช้จ่ายที่น้อยตามไปด้วย
และเมื่อใช้จ่ายน้อย ก็จะส่งผลจากเล็กๆเช่น พ่อค้าแม่ค้าไม่มีคนซื้อ ของก็จะขายไม่ได้ ตลาด ห้างสรรพสินค้าไม่มีคนเดิน คนส่วนมากไม่มีเงินที่จะเอาไปใช้จ่ายให้เงินหมุนเวียนเศรษฐกิจ และพอเศรษฐกิจไม่ดี ทั้งบริษัททั้งโรงงาน ก็ต้องปิดตัวลง พนักงานและคนงาน ก็ต้องตกงาน กลายเป็นล้มไปหมดทั้งระบบ
7. คอรัปชั่น และการโกงจะมากขึ้น
แน่นอนว่าเงินยิ่งหายาก การมีโอกาส หรือหนทาง ก็ต้องคว้าเอาไว้ และมันทำให้คนขาดจิตสำนึกได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ยอมทำทุกอย่างเพื่อเงิน ไม่สนใจว่ามันเป็นสิ่งที่ผิดหรือถูก
![](https://readykids.info/wp-content/uploads/2020/08/562000010308901.jpg)
8. ครอบครัวมีปัญหามากขึ้น
สมัยก่อนผู้ชายจะเป็นคนออกไปทำงาน หาเงินเพื่อมาเลี้ยงครอบครัว ผู้หญิงจะอยู่บ้านคอยดูแลงานบ้าน และเลี้ยงลูก ทำให้มีเวลาอยู่กับลูกได้ตลอด แต่พอมายุคนี้ ทั้งพ่อและแม่ก็ออกไปทำงานนอกบ้าน และยิ่งยุคที่เงินหายาก
ยิ่งต้องทำงานมากขึ้นไปอีก เพราะหาเงินมาก็ไม่พอค่าใช้จ่าย ลูกก็ไม่มีใครอยู่ด้วย และยิ่งมีการทำโอทีกลับบ้านดึกดื่น ยิ่งไม่มีเวลาเจอหน้ากันเลยในแต่ละวัน และเมื่อพ่อแม่ทำแต่งานไม่มีเวลาให้ครอบครัว ก็ทำให้ลูกเริ่มมีปัญหาและเป็นปัญหาสังคมต่อไปอีก
![](https://readykids.info/wp-content/uploads/2020/08/9251094e150b175a1eb74aaf45f2e452.jpg)
9. เงินเฟ้อแฝง
นอกจากดอกเบี้ยเงินฝากในบัญชีจะไม่มีแล้ว ค่าครองชีพก็ยังเพิ่มขึ้นทุกปี หากลองมองย้อนกลับไปในอดีต จะเห็นว่าค่าครองชีพนั้น สูงขึ้นรื่อย ๆ เงิน 40 บาท ที่เมื่อก่อนซื้อก๋วยเตี๋ยวได้ 2 ชาม เดี๋ยวนี้ก็ซื้อได้แค่ชามเดียว เรามีเงินเท่าเดิมในขณะที่ข้าวของทุกอย่างแพงขึ้น ซื้อของได้น้อยลง นี่แหละที่เรียกว่า เงินเฟ้อแฝงก็คือ “ค่าครองชีพ”
แหล่งที่มา: kiddpan