Saturday, 27 July 2024

เกษตรกรหันมา ปลูกมันหวาน แทนมันสำปะหลัง สร้างรายได้หลัก แสนบาทต่อไร่

ประเทศไทยมีเนื้อที่เก็บเกี่ยว ผลผลิต และผลผลิตต่อไร่ขยายตัวเพิ่มขึ้นตามลาดับเนื่องจากราคามันสำปะหลังอยู่ในเกณฑ์ดี ภาครัฐมีการดำเนิน โครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกษตรกรขยายพื้นที่ปลูกและการระบาดของเพลี้ยแป้งลดลงมากรวมถึงเกษตรกรดูแลรักษาดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ในปี 2557 มีเนื้อที่เก็บเกี่ยว 8.43 ล้านไร่ ผลผลิต 30.02 ล้านตัน และผลผลิตต่อไร่ 3.56 ตัน เมื่อเทียบกับปี 2556 ที่มีเนื้อที่เก็บเกี่ยว 8.66 ล้านไร่ ผลผลิต 30.23 ล้านตันและผลผลิตต่อไร่ 3.49 ตัน พบว่าลดลง 2.61% และ 0.68% ตามลาดับ เนื่องจากเกษตรกรปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า

เช่น อ้อยโรงงาน ข้าวโพดเลี้ยง สัตว์ และยางพารา รวมถึงพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังแซมในสวนยางพารา ซึ่งปัจจุบันยางพาราเจริญเติบโตไม่สามารถปลูกแซมได้อีก ส่วนผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น 1.98% เนื่องจากเกษตรกรมีการบำรุงดูแลรักษาที่ดีประกอบกับสภาพอากาศเอื้ออานวยต่อการเจริญเติบโต มันสำปะหลังเป็นพืชที่ไม่จำกัดอายุการเก็บเกี่ยวแต่ควรเก็บเกี่ยวเมื่ออายุครบ8เดือนขึ้นไปโดยอายุที่เหมาะสมคือ12เดือนไม่ควรเก็บเกี่ยวในช่วงที่มีฝนตกชุกเพราะจะทำให้มีเปอร์เซนต์แป้งต่ำการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังมีกระบวนการดังต่อไปนี้

1.ใช้มีดตัดต้นเหนือระดับพื้นดินประมาณ30เซนติเมตร
2.ถอนโดยใช้จอบหรือรถแทรกเตอร์ที่มีอุปกรณ์ชุดพ่วงถ้ายเพื่อขุดหัวมันสำปะหลัง
3.ตัดส่วนหัวมันสำปะหลังออกจากต้นหรือเหง้า

หลังจากที่สถานการณ์มันสำปะหลังในประเทศตกต่ำอย่างหนักมานานหลายปีนายวิวัฒน์ศรีกระสังข์อายุ32ปีเกษตรกรบ้านประชาสันต์หมู่ที่10ต.เสิงสางอ.เสิงสางจ.นครราชสีมาตัดสินใจรื้อไร่มันสำปะหลังของตนเองที่มีอยู่เกือบ50ไร่หันไปปลูกมันเทศแทนมันสำปะหลัง เนื่องจากมองเห็นว่ามีราคาที่ดีกว่ามันสำปะหลังอีกทั้งยังใช้ระยะเวลาในการเพาะปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวเพียงแค่4เดือนในขณะที่มันสำปะหลังต้องใช้ระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวครั้งเดียวต่อปี แต่ก็ยังต้องมาประสบกับปัญหาราคาที่ไม่แน่นอนจึงหันมาทดลองปลูกมันหวานสายพันธุ์ต่างประเทศซึ่งกำลังเริ่มเป็นที่ต้องการของตลาดและมีราคาสูงกว่ามันเทศธรรมดาหลาย10เท่าตัว พร้อมทั้งหาตลาดด้วยตัวเองและใช้โอกาสจากการที่เข้าร่วมโครงการต่างๆของรัฐพัฒนาต่อยอดจนทุกวันนี้สามารถสร้างรายได้จากการจำหน่ายมันหวานได้เดือนละกว่า2แสนบาท

นายวิวัฒน์ฯกล่าวว่ามันหวานสายพันธุ์ต่างประเทศนั้นมีหลากหลายชนิดทั้งพันธุ์สีส้มเบนิฮารุกะโอกินาว่าสายน้ำผึ้งอินโดและฮาวาย ราคา ก็จะมีเริ่มต้นตั้งแค่กิโลกรัมละ60บาทไปจนถึง350บาทเลยทีเดียว โดยพันธุ์ที่มีราคาสูงสุดคือสายพันธุ์ ฮาวายกิโลกรัมละ350บาทขณะที่มันเทศธรรมดาราคาขณะนี้จะอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ6–10บาท แต่ราคานี้ก็ถือว่าดีกว่ามันสำปะหลังที่ ราคาตกอยู่เพียงกิโลกรัมละหนึ่งบาทเศษเท่านั้น ในขณะนี้กระแสมันหวานกำลังมาแรงเป็นที่นิยมชื่นชอบในหมู่ลูกค้าผู้ที่รักในสุขภาพจะนิยมรับประทานมากเป็นพิเศษอีกทั้งรสชาติที่หวานหอมจึงทำให้เริ่มมีฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ตนเองกำลังอยู่ในระหว่างการรวมกลุ่มผู้ผลิตและเจรจากับทางตลาดระดับบนคือในส่วนของห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาเก็ตเพื่อต่อยอดการตลาดให้มากยิ่งขึ้นด้วย

ข้อควรระวัง
1.สภาพพื้นที่ปลูกควรดูแลรักษาให้ปราศจากวัชพืช โรคและแมลงอยู่เสมอ
2.ต้นพันธุ์ที่ใช้ปลูกควรใหม่สดไม่บอบช้ำปราศจากโรคแมลงและเป็นพันธุ์ที่ไม่ถูกทำลายโดยสารเคมีกำจัดวัชพืช
3.ผลผลิต(หัวสด)เมื่อเก็บเกี่ยวส่งจำหน่ายไม่ควรมีส่วนของลำต้นและดินปน
4.หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตควรรีบส่งจำหน่ายทันทีไม่ควรทิ้งไว้นานเกิน4วันเพราะจะเน่าเสียหาย
5.การพ่นสารเคมีกำจัดโรคแมลงและวัชพืชทุกครั้งควรมีการป้องกันให้ถูกวิธี

แหล่งข้อมูลบางส่วนจาก คู่มือนักวิชาการส่งเสริมการเกษตร มันสําปะหลัง