Saturday, 27 July 2024

หนุ่มทิ้งเงินเดือนวิศวะ หันมา “ปลูกตะไคร้” ง่ายๆ ขายได้วันละหลายตัน สร้างรายได้หลักแสนบาทต่อวัน

โดยในวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับชายหนุ่มวิศวกรแห่งหนึ่งที่ได้ผันตัวเองมาเป็นชาวเกษตรกรโดยใช้ผู้นี้ก็คือคุณ พยนต์ มูลเกิด ที่บอกเลยว่า ตอนนี้ตัวเขานั้นได้กลายเป็นเกษตรเงินล้านไปแล้วบอกเลยว่าสิ่งนี้ไม่ได้มาแต่โชคช่วยแต่เกิดจากองค์ประกอบหลายๆอย่างในการทำงานที่แลกมาด้วยเหงื่อจึงทำให้เขานั้นสามารถมีความเป็นอยู่อย่างเช่นทุกวันนี้ได้อย่างภาคภูมิใจในตัวเอง

โดยตัวเขานั้นเป็นชายหนุ่มที่ทำงานทางด้านวิศวกรประจำโรงงานมาแล้วกว่า 10 ปีและได้หันเหมาเป็นชาวเกษตรกรด้วยที่มีความคิดที่ว่าอาชีพเกษตรกรนั้นก็สามารถรวยได้เช่นกันจึงได้มีการหมั่นศึกษาหาความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอ โดยจุดเริ่มต้นนั้นเขาได้เป็นลูกชาวสวนส้มเขียวจังหวัดปทุมธานีโดยได้มุ่งมานะเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีในคณะวิศวกรรมสื่อสารโดยทำงานในสาขามากกว่า 11 ปีผ่านทั้งงานด้านควบคุมและงานด้านการขาย

แต่สุดท้ายตัวเขานั้นก็อยากจะมีธุรกิจเป็น ของตัวเองจึงได้หันมาเป็นชาวเกษตรก รโดยได้มีการลงหาข้อมูลว่าพืชชนิดไหนนะมีความเป็นไปได้และพืชชนิดไหนนั้นสามารถปลูกแล้วจะประสบความสำเร็จได้มากที่สุดและจะต้องมีตัวแปรทางด้านตลาดที่รองรับเหมาะกับพื้นที่ดินที่จะปลูกและตัวเลือกที่สามารถสรุปออกมาได้นั่นก็คือ ตะไคร้ นั่นเองโดยในการปลูกครั้งแรกนั้นเริ่มต้นเพียงแค่ 5 ไร่เท่านั้น

และสาเหตุที่เลือกการปลูกตะไคร้นั้น นั่นก็เป็นเพราะว่า ตะไคร้ เป็นพืชที่ลงทุนน้อยอีกทั้งยังมีช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศปลูกง่ายและแตกหน่อไว้ให้ผลผลิตที่ราคางามราคาไม่ตกมากอีกทั้งยังเป็นพืชที่ใช้ในทุกครัวเรือนและยังให้คุณนะประโยชน์มากมายจึงสามารถหาตลาดได้อย่างหลากหลายมารองรับ

โดยสวนของคุณพยนต์ นั้นมีชื่อว่า “สวนกายกานต์”ซึ่งจากที่ปลูกมา 5 ไร่ในปัจจุบันนั้นก็พัฒนามาจนถึง 10 ไร่และสามารถเก็บตะไคร้ได้ถึงวันละประมาณ 2 ตันหรือประมาณ 20,000 กิโลกรัมโดยราคาของตะไคร้น้ำมีทั้งขาขึ้นและขาลงโดยราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 10 ถึง 20 บาทต่อกิโลกรัมหากคิดเป็นเงินก็จริงมีรายได้อยู่ที่ 200,000 บาทถึง 400,000 บาทเลยทีเดียวยิ่งถ้าหากมีการตัดแต่งตะไคร้ก่อนขายก็จะสามารถขายได้ถึง 40บาท/ กิโลกรัม

นอกจากนี้ก็ยังมีการจับรวมกลุ่มของผู้ปลูกตะไคร้ทำให้สามารถป้อนผลผลิตให้กับทางตลาดได้อย่างทันความต้องการโดยในปัจจุบันนั้นจะสามารถทำยอดการผลิตได้ถึง 5 ตันต่อวันสำหรับการทำตลาดนั้นเริ่มแรกนั้นก็จะเริ่มจากที่ตลาดใกล้บ้านตามแผนในตลาดสดโดยตะไคร้จะเน้นคุณภาพและความหมายที่จะต้องแข่งกับเวลาเพราะตอนตัดตะไคร้นั้นจะต้องส่งให้ไวที่สุดเพื่อคุณภาพที่ดีที่สุด

จากนั้นก็จะมีร้านขายน้ำพริกเข้ามาติดต่อน้ำตะไคร้ไปใช้งานโดยมีการให้เขาทดลองใช้ดูก่อนเพื่อดูคุณภาพของตะไคร้ว่าดีไหมซึ่งหากเขาพอใจเขาก็จะติดต่อกลับมาปรากฏว่าเขาติดใจและได้ราคาดีพอสมควรจากนั้นก็เริ่มมี Order เข้ามาเรื่อยๆซึ่งแหล่งขายส่งที่วิ่งส่งใหญ่ที่สุดในโลกคือตลาดไทยโดยมีการเข้าไปติดต่อการันตีปริมาณส่งทั้งเรื่องคุณภาพและเวลานัดที่ตรงตามนัดจึงทำให้สามารถเพิ่มยอดขายได้อีกเส้นทางหนึ่ง

นอกจากนี้ยังมีบริษัทและโรงงานส่งออกที่ต้องการตะไคร้เป็นจำนวนมากโดยต้องวิ่งเข้าออกโรงงานรายใหญ่เพื่อทำผลิตภัณฑ์แปรรูปส่งออกโดยมีตะไคร้เป็นวัตถุดิบ หรือ โรงงานที่ตัดแต่งและแพ็คขายแบบตะไคร้สดๆ ไปต่างประเทศ ซึ่งทั้งสองแบบต้องไปติดต่อ เสนอตัวอย่าง และทำคอนแทคฟาร์มมิ่ง(สัญญาซื้อขายล่วงหน้า) เพื่อการันตีราคารับซื้อ และ จำนวนที่เขาจะรับซื้อ ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนนี้กว่า 50 % ของยอดการผลิตทั้งหมด

สำหรับการปลูกตะไคร้นั้นก็มี 2 ปัจจัยหลักนั่นก็คือ

ปลูกให้เป็นก่อน

อาจเริ่มต้นจากการทดลองปลูก ต้นสองต้นในกระถางดู เพื่อ ให้รู้จักธรรมชาติของต้นตะไคร้ , รู้จักโรคต่างๆของตะไคร้ และรู้จักดิน จากนั้นก็ต้องหาความรู้จากการปลูกให้มากที่สุด และต้องเลือกพันธุ์ที่เหมาะสม ของสวนเราใช้ “พันธุ์ขาวหยก” และที่สำคัญต้องเน้นคุณภาพ ต้องให้ได้ขนาดตามที่ตลาดต้องการ แล้วค่อยขยับมาเป็นไร่ โดยเริ่มจาก 1 – 3 ไร่ ก็ได้

ต้องมีตลาดรองรับ

เริ่มจากการหาแหล่งตลาดใกล้ๆบ้านก่อนก็ได้เพื่อประหยัดในการจัดค่าส่งขนส่งไม่เสียเวลาในการขนส่งเมื่อได้ที่แล้วก็ค่อยๆขยับขยายทำตามแนวทางตลาดของตัวเอง

ขั้นตอนการปลูกตะไคร้ ( 100ไร่ )

ขั้นตอนที่ 1 เตรียมพื้นที่ปลูก โดยการ “ยกร่อง” หรือ “ปลูกแบบแนวราบ” ก็ได้ แต่ถ้าแบบยกร่องไม่ต้องทำระบบให้น้ำ แบบพื้นราบอาจต้องเดินท่อให้น้ำ แต่ก็จะประหยัดเรื่องแรงงาน

ขั้นตอนที่ 2 เตรียมหน้าดินให้พร้อมและกำจัดวัชพืชต่างๆขุดหลุมประมาณ 20 * 20 เซนติเมตรและใส่ดินในลงไปในหลุม

ขั้นตอนที่ 3 เอาต้นพันธุ์ความยาวประมาณ 15 เซนติเมตรใส่ในแนวตั้งและรดน้ำประมาณ 3 วันจนลากใบเริ่มแตกนอกจากนั้นก็นำไปปักในหลุมละ 2 ต้น ทำการรดน้ำเช้าเย็นจนครบ 7 วันหลังจากนั้น 20 วันก็ใส่ปุ๋ยยูเรียเน้นกำจัดวัชพืชและใส่ปุ๋ยเดือนละ 1 ครั้งต่อเดือน

ขั้นตอนที่ 4 โดยใช้แปลงปลูกทั้งหมดเป็น 80 แล้วทยอยปลูกลงไปทีละแปรเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ไล่ออกตามความต้องการของตลาดอีกทั้งยังมีการป้องกันความเสี่ยงเรื่องราคาได้และสามารถให้ผลผลิตได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย

การให้ปุ๋ยและน้ำต้นตะไคร้
เมื่อเริ่มปลูกใหม่ๆ ควรรดน้ำ 3 วัน ต่อครั้ง และเมื่อต้นตะไคร้เริ่มแตกกอก็เริ่มให้น้ำห่างออกไปได้ประมาณ 4-5 วัน ต่อครั้ง ถ้าเป็นการรดน้ำแบบวิดน้ำราดก็ให้น้ำอยู่ประมาณอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เพราะดินจะชุ่มน้ำอยู่นานเป็นเวลา 7-8 วัน ส่วนปุ๋ยที่ควรบำรุงต้นตะไคร้จะใส่ทั้งปุ๋ยอินทรีย์ และปุ๋ยเคมี ควบคู่กันไป

เมื่อตอนที่ไถพรวนปรับสภาพดินควรใส่ปุ๋ยคอกไปเลยในช่วงนั้น และใส่แค่ครั้งเดียว หลังจากนั้นจะใส่ปุ๋ยสูตร 25-7-7 เพื่อช่วยเร่งหัวของตะไคร้ ควรใช้ปุ๋ยประมาณ 25 กิโลกรัม ต่อไร่ ต่อครั้ง เป็นระยะเวลา 3 เดือน แล้วใส่ปุ๋ยแค่เดือนละ 1 ครั้ง ก็พอ การปลูกตะไคร้ จะไม่ค่อยมีโรคและแมลงมารบกวน จึงไม่ต้องดูแลอะไรมากมายนัก แค่ใส่ปุ๋ย รดน้ำ ให้เพียงพอต่อความต้องการก็พอแล้ว