สาวหล่อหาเวลาหลังเปิดร้านอาหาร ปลูกบอนไซมะพร้าว รายได้เสริมสู้พิษเศรษฐกิจ

ในยุคเศรษฐกิจข้าวยาก หมากแพง หลายคนหันมาหารายได้เสริมจากงานประจำที่ทำอยู่ การขายของออนไลน์หรือ ต่อยอดสิ่งที่ขื่นชอบ ถนัด เป็นรายได้เสริม เช่นเดียวกับ น.ส.ธฤติกานต์ ไพฑูรย์ อายุ 55 ปี เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ บึงขุนทะเล ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ที่นอกจากทำธุรกิจร้านอาหารพื้นที่เปิด และปลูกผักสวนครัว ทำเศรษฐกิจพอเพียง บริเวณรอบร้านแล้ว ยังทำบอนไซมะพร้าวขาย เป็นรายได้เสริมทางออนไลน์

หลังจากที่บอนไซมะพร้าวที่กำเนิดในอินโดนีเซียมานานหลายปี และเข้ามาเป็นที่นิยมในประเทศไทยในไม่กี่ปีมานี้ ด้วยรูปทรงสวยงามหลากหลายเป็นเอกลักษณ์แต่ละต้น ประกอบกับจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นแหล่งมะพร้าวที่ขึ้นชื่อทั้งในพื้นที่ อ.เกาะสมุย และมะพร้าวในบาง อ.เมืองสุราษฎร์ธานี และเมื่อยิ่งศึกษา ยิ่งชื่นชอบในความหลากหลายสายพันธุ์ของมะพร้าว ที่สามารถนำมาปรับ กำหนดรูปทรงให้สวยงามหลากหลายเฉพาะต้นไม่ซ้ำ

น.ส.ธฤติกานต์ ไพฑูรย์ กล่าวว่า ได้เริ่มทำบอนไซมะพร้าวมาเมื่อ 3 ปีก่อน โดยศึกษาจากยูทูบและดูข้อมูลจากโซเชียล จนได้สูตรในการทำของตนเอง ใช้เวลาว่างจากการทำร้านอาหาร ศึกษา ลองผิดลองถูกมาพัฒนาตนเองมาเรื่อยมา และใช้พื้นที่ที่พักข้างร้านอาหารทำบอนไซมะพร้าว สำหรับขั้นตอนการปลูกก็เหมือนคนอื่นๆ ที่ทำบอนไซมะพร้าวทั่วไปแต่จะแตกต่างในสูตรการดูแล ตัดแต่งกาบใบและบังคับรูปทรง และมะพร้าวที่ใช้มีทั้ง มะพร้าวแกงที่ขึ้นชื่อของสุราษฎร์ธานี มะพร้าวไฟ มะพร้าวน้ำหอม มะพร้าวพวงร้อย และมะแพร้ว

ใช้เวลาตั้งแต่ปลูกจนถึงขาย ตั้งแต่ 6 เดือน – 2 ปี ราคาที่มีขณะนี้ ตั้งแต่ 500 – 4,500 บาท ขึ้นกับขนาด ความสวยงาม ตลอดจนความพอใจของลูกค้า ยิ่งรูปทรงดี รากเดินรูปทรงสวยงามแข็งแรง ใบตั้งเป็นพุ่มสยายสวยงาม กะลาสวย และจัดวางในกระถางหรือภาชนะที่เข้ากัน รวมๆ กันแล้วจะยิ่งได้ราคาดี และขณะนี้เป็นที่ต้องการของตลาดและผู้ที่ชื่นชอบ ซึ่งการได้เอาเวลาว่างที่มีจากงานร้านอาหาร ทำสิ่งที่สนใจให้เป็นรายได้อีกทางหนึ่งในยุคเศรษฐกิจเช่นนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก

นอกจากนี้ยังมีแนวคิดที่จะถ่ายทอดความรู้สำหรับผู้ที่สนใจหรือกลุ่มนักเรียนนักศึกษาอยากมีความรู้ หรือเพื่อต่อยอดเป็นรายได้เสริม ยินดีที่จะแนะนำ และให้เข้าเยี่ยมชมได้ หรือสนใจบอนไซมะพร้าว

สามารถติดตามได้ที่เพจ บอนไซน์มะพร้าว สฎ.ลุงก้อย.