การจะหาที่พักที่อยู่อาศัยดีๆ สักที่หนึ่งนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยสำหรับคนที่มีรายได้วันต่อวัน หาเช้ากินค่ำ ค่าจ้างที่ได้รับก็เป็นเพียงค่าแรงขั้นต่ำเท่านั้น อีกทั้งสมัยนี้หอพัก ร า ค า ก็เริ่มต้นกัน 3-5 พันบาทกันหมดแล้ว คนที่ฐานะไม่มั่นคงหลายคนต้องทนอยู่ในห้องเช่าแคบๆ ไม่มีอะไรอำนวยความสะดวกเลยสักอย่าง แต่ก็ต้องทนกันไปเพราะจากบ้านนามาก็เพื่อหา เ งิ น เลี้ยงชีพส่งกลับบ้านให้พ่อแม่ ดิ้นรนกันต่อไปหากยังมีลมหายใจ
วันนี้เรามีเรื่องราวสุดประทับใจของเศรษฐีท่านหนึ่งมาเล่าให้เพื่อนๆฟังค่ะ เมื่อเขาได้เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของครอบครัวหนึ่ง จึงตัดสินใจยกบ้านให้เช่าแค่เดือนละ 1 บาท เหมือนให้อยู่ฟรี แถมให้ปลูกผักเก็บกินเก็บ ข า ย ได้เลยบนเนื้อที่นั้น
คุณชวน ภูเก้าล้วน เศรษฐีแห่งเมืองกระบี่ และประธานกรรมการบริหารบริษัทศรีผ่องพาณิชย์ จำกัด ได้ให้ตัวแทน คุณธนวัช ภูเก้าล้วน เข้ามาทำสัญญาเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านพัก 1 หลัง แก่ครอบครัวหนึ่ง ในบ้านตลาดเก่า ต.กระบี่ใหญ่ อ.เมือง จ.กระบี่ ด้วยค่าเช่าเพียงเดือนละ 1 บาท
ซึ่งผู้เช่าคือ คุณวิศาล พรรณราย และคุณสุพจน์ ผู้มีสัตย์ สองสามีภรรยาที่มาจากต่างจังหวัด มารับจ้างทำงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ และได้เคยขอสร้างที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ของบริษัทศรีผ่องพาณิชย์ จำกัด มาก่อนหน้านี้ แต่ทว่าบ้านที่สร้างกันเองนั้นก็ทรุดโทรมมาก มีน้ำท่วมประจำเวลาฝนตกหนัก ความเป็นอยู่ลำบากมาก
คุณวิศาลตื้นตันใจมาก เพราะตนเองและสามี มีอาชีพรับจ้างก่อสร้าง แต่ช่วงหลังๆ มานี้ตนเริ่มทำงานไม่ไหว เพราะมีปัญหาด้านสุขภาพหลายอย่าง อีกทั้งอายุก็มากแล้ว ทำให้สามีต้องทำงานคนเดียว และมีรายได้ต่อวันแค่วันละ 300 บาท ส่วนตนเองก็ใช้ค่าครองชีพจากสวัสดิการ รั ฐ ในการกินอยู่ อาศัยแคมป์คนงานก่อสร้างเก่า กั้นด้วยสังกะสี แต่มันชอบมีน้ำท่วมเป็นประจำเนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่ม
เป็นความ โ ช ค ดีของตนเองกับสามีที่คุณชวน เศรษฐีใจบุญทราบเรื่องเข้า และได้ให้ตนเองกับสามีย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านพักอีกหลังหนึ่งซึ่งอยุ่ใกล้กัน มีสภาพดีกว่า และน้ำมไม่ท่วมขังแน่นอน เนื่องจากเป็นบ้านชั้นเดียวยกสูง แถมให้เช่าใน ร า ค า แค่เดือนละ 1 บาท พร้อมกับอนุญาตให้ปลูกผักทำกิน หา เ งิ น บนพื้นที่อีกด้วย
นอกจากนี้ คุณธวัชชัย ตัวแทน ได้มอบข้าวสาร น้ำดื่ม ให้กับสองสามีภรรยาเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในกาsกินอยู่เบื้องต้น หลังจากที่ทำสัญญาเช่ากันเสร็จเรียบร้อยแล้ว สองสามีภรรยาก็ได้ขนข้าวของเข้าบ้านใหม่ด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มแห่งความสุขความดีเป็นสิ่งที่ไม่มีวันหมดอายุ ไม่ช้าก็เร็ว ผลของความดีจะกลับมาหาเจ้าของ ซึ้งใจแทนคุณป้าเลยค่ะ
นับว่าเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่น่าชื่นชม นี่แหล่ะค่ะที่เขาเรียกว่า คนรวยน้ำใจ หากเรามีก็หยิบยื่นน้ำใจให้คนที่ด้อยกว่าเพราะเห็นแก่การเป็นเพื่อนร่วมโลก ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม การช่วยเหลือเพื่อนในสังคมด้วยกัน ย่อมได้รับสิ่งตอบแทน และทำให้ผ๔เรับนั้นมีความสุข ไม่มากก็น้อย เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขในสังคมต่อไป
แพงที่สุด….อาจไม่ได้ดีที่สุด….รวยที่สุด…อาจไม่ได้มีความสุขที่สุด….ชีวิต….ไม่จำเป็นต้องดีที่สุดก็ “สุข”ได้
ขอขอบคุณที่มา : หมื่นพันเหตุผล, naewna