ถือเป็นเรื่อวราวที่น่าเห็นใจเป็นอย่างมาก สำหรับน้องโบ๊ต วัยสิบสี่ปี ที่ต้องเป็นเสาหลักให้กับครอบครัวคอย ดูแลน้องๆอีกสองคน อย่างน้องป่าน และน้องจ้า สามพี่น้องอาศัยอยู่กันตามลำพังภายในบ้านเก่าๆหลังหนึ่ง
ในจังหวัดสุโขทับ ซึ่งน้องโบ๊ตได้เล่าถึงเรื่องราวในครอยครัวของพวกเขาให้ได้ฟังกันว่า เขาเกิดมาในครอบครัว ที่มีฐานะยากจน พ่อกับแม่ออกไปรับจ้างก่อนสร้างไปตามสถานที่ต่างๆ ทำให้อยู่ที่ไหนนานๆไม่ได้ น้องโบ๊ตเลยได้เข้าเรียนหนังสือช้ากว่าเกณฑ์ แต่พอมีน้องอีกสองคนพ่อแม่ก็ออกไปทำมาหากินที่อื่นกัน
จนช่วงหลังๆมานี้เวลาพ่อกับแม่กลับมาอยู่ด้วยกันก็จะมีปัญหากันบ่อยๆ จนสามปีที่แล้วท่านก็ได้พาให้มาอยู่กับลุง โดยเขาก็ยกบ้านหลังนี้ให้อยู่อาศัย จากนั้นก็ได้จากไปซึ่งจากนั้นพวกเขาก็ไม่ได้เจอหน้าพอแม่อีกเลย และ ขาดการติดต่อไป
จากก่อนหน้านี้ได้มีพี่ชายคนโตอย่างตะวัน คอยเป็นเสาหลักดูแลทุกคนต่อจาก พ่อแม่ แต่ด้วยความเป็นอยู่ที่ลำบาก พี่ชายเลยยอมเสียสละ ออกจากโรงเรียนไปรับจ้างก่อสร้างเหมือนกับคนอื่นๆ
น้องโบ๊ตจะทำหน้าที่คอยดูแลน้องๆ ตื่นเช้ามาทำกับข้าว จากนั้นก็ปั่นจักรยานพาน้องๆไปโรงเรียนและเย็นก็ กลับมาเลี้ยงน้องๆทำความสะอาดบ้านและสอนการบ้านน้อง ชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นก็เห็นใจน้องๆทั้งสามเป็นอย่างมาก
เข้ามาช่วยเหลือ ม อ บ อ า ห า ร และทุนให้บ้างตามโอกาส แต่ก็ช่วยได้ไม่มาก น้องโบ๊ตได้บอกว่า ตัวเขาเองไม่ได้ ต้องการอะไร แต่เขาเป็นห่วงน้องๆทั้งสองคนเพราะยังเล็ก
อยากได้ห้องน้ำที่อยู่ติดกับบ้านเพราะอยากให้น้องปลอดภัย อีกทั้งยังอยากมีทุนการศึกษาให้น้องๆได้เรียนหนังสือจบสูงๆ เพื่อที่จะได้มีอนาคตที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้
ไม่ว่าคุณจะเพิ่งมีความพ่ายแพ้ไล่ตามความฝันของ คุณล้มเหลวคุณรู้สึกหมด หมดกำลังใจแรงจากการเดินทางทำตามความฝัน ชีวิตจำไว้ว่าสิ่งต่างๆ ทันที สิ่งที่คุณต้องทำคือเดินหน้าต่อไปแม้ในขณะที่รู้สึกว่ามันง่ายกว่าที่จะล้มตัวลงนอนและยอมแพ้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิตต่อไปนี้เป็นคำพูดที่ให้กำลังใจที่หวังว่าจะได้รับการเพิ่มเมื่อคุณต้องการ
“เราจะแข็งแกร่งขึ้น เมื่อเจออุปสรรคที่เราไม่เคยเจอ แล้วเราสามารถที่จะทนและฝ่าฟันผ่านมันมาได้”
เรียบเรียงโดย เกษตรก้าวหน้า