วันนี้จะมาเล่าเรื่องราวของคนใจบุญท่านนึง พี่ท่านนี้มีชื่อว่าพี่วินิจ สมสิทธิ์ เป็น พ่ อ ค้ า เ ขี ย ง ห มู จะขอเล่าความเป็นมาก่อนว่าทำไมพี่วินิจถึงมีใจที่จะแจกเนื้อหมูและไข่ไก่ให้กับคนอื่นแบบฟรีๆ
เมื่อตอนที่พี่วินิจยังเป็นเด็ก พี่วินิจอยากกินไอศกรีมมาก จึงไปยื่นเกาะรถขายไอศกรีม แต่ตัวเองไม่มีเงินซื้อ พ่อค้าขายไอศกรีมเห็นแล้วเกิดความสงสาร จึงให้ไอศกรีมฟรีกับพี่วินิจมา 1 แท่ง ด้วยความที่ยังเป็นเด็ก พี่วินิจดีใจมากที่ได้กินไอศกรีมแบบฟรีๆ ทำให้พี่วินิจเกิดความรู้สึกดีใจและรู้จักว่าการที่ได้รับมันรู้สึกแบบนี้นี่เอง

พี่วินิจจึงฉุกคิดได้ว่า “ถ้ๅฉันโตขึ้นจะแบ่งปันให้กับคนที่ไม่มีเงินให้ได้มีของกินแบบนี้บ้าง”
พอโตขึ้นมาพี่วินิจได้เข้ามายังกรุงเทพมหานครเพื่อทำงาน โชคดีได้จับพลัดจับพลูมาขายหมูทำให้พอมีรายได้พออยู่พอกิน พอที่จะลืมตาอ้าปากได้
แรกเริ่มเดิมทีพี่วินิจเริ่มจๅกแจกเนื้อหมู-ไข่ไก่ ต า ม วั น สำ คั ญ ต่ า ง ๆ ก่อน เช่นวันพ่อ วันแม่ และวันเกิดตัวเอง จนมีพ่อลูกคู่นึงมาซื้อเนื้อหมูที่ร้าน ขอซื้อเนื้อหมู50บาท แต่เงินที่นำมาซื้อเป็นเหรียญทั้งหมด

พี่วินิจจึงตัดสินใจถามไปว่า “ทำไมวันนี้เป็นเหรียญทั้งหมดเลย” ตัวคุณพ่อตอบกลับมาว่า “เงินเอาไปจ่ายค่าเทอมลูกหมดแล้ว วันนี้เลยมาซื้อหมูด้วยการแคะกระปุกออมสินลูกมาซื้อ”
พี่วินิจจึงตัดสินใจให้เนื้อหมูกับพ่อลูกคู่นี้แบบฟรีๆไปเลย เรื่องนี้เป็นตัวจุดประกายให้พี่วินิจคิดได้ว่า “เราต้องให้คนอื่นเพิ่ม” จากเดิมที่แจกตามวันสำคัญเพียงอย่างเดียว นับตั้งแต่วันนั้นจึงเริ่มแจกทุกวัน
ซึ่งปัจจุบันพี่วินิจพูดได้เต็มปๅกว่า “อาชีพหลักคือขายหมู อาชีพรองคือช่วยเหลือคน” คนส่วนใหญ่ที่มารับของจะพี่วินิจจะเป็นคนชรา คนพิการ เด็ก คนท้อง คนเร่ร่อน แต่ในช่วงนี้ที่โควิดระบาดหนัก คนที่มีรายได้น้อย พี่วินิจก็แจกเหมือนกัน

สิ่งของที่พี่วินิจแจกจะเป็นของกินทั้งหมด เช่น เนื้อหมู ไข่ไก่ ข้าวสาร มาม่า ปลากระป๋อง และในยุคโควิดแบบนี้พี่วินิจก็แจกหน้ากากอนามัยฟรีอีกด้วย เวลาชาวบ้านมารับของจากพี่วินิจใน 1 ถุงจะมีเนื้อหมูครึ่งกิโล ไข่ไก่ 10 ฟอง ข้าวสาร 1 ถุง มาม่า ปลากระป๋อง และหน้ากากอนามัย
ช่วงแรกๆมีคนหาว่าพี่วินิจสร้างภาพ ทำดีแค่ต่อหน้ากล้อง แต่พี่วินิจไม่สนคำพูดของคนอื่น พิสูจน์ตัวเอง จนทุกวันนี้คนที่พูดแบบนั้นกลับมายอมรับและนับถือพี่วินิจจากใจจริงๆ เพราะปัจจุบันพี่วินิจก็ยังคงมีการแบ่งปัน และแบ่งปันมาตลอดเป็นระยะเวลามากกว่า 15 ปี หมดเงินไปประมาณเกือบ 1 ล้าน

พี่วินิจทิ้งท้ายว่าที่ทำแบบนี้แน่นอนไม่ได้กำไร แต่ได้ “ กำ ไ ร บุญ ” ได้ความสุขใจ พี่วินิจเชื่อว่าขอแค่ทำอะไรสักอย่างให้สังคมมันดีขึ้น สามารถอยู่ด้วยกันได้ ไม่ต้องเอาเปรียบกัน ทุกคนก็สามารถอยู่อย่างเท่าเทียมกันได้ แล้วโลกจะสวยงามขึ้นแน่นอน ขอแค่คุณเริ่มจากการให้ แล้วสักวันนึงคุณจะได้กลับมาอย่างแน่นอน พี่วินิจยังทิ้งท้ายอีกว่าจะแจกของแบบนี้จนกว่าตัวเองจะทำไม่ไหว แต่ถ้าตัวเองรวยขึ้นก็จะแจกของมากขึ้นอย่างแน่นอน
“อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง คุณอาจรู้สึกปลอดภัยมากในบ่อน้ำที่คุณอยู่ แต่ถ้าคุณไม่กล้าเสี่ยงมันคุณจะไม่มีทางรู้ว่ามีสิ่งต่างๆ เช่นมหาสมุทร การยึดมั่นในบางสิ่งที่ดีสำหรับคุณตอนนี้ มันอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณไม่มีสิ่งที่ดีกว่า”
พิกัดร้านพี่วินิจ:ตลาดนัดทอนแสง ถนนเทพารักษ์ ติดกับกรมศุลกากร เปิดตั้งแต่ 12.00น. – 20.00น.
เรียบเรียงโดย เกษตรก้าวหน้า