ปลากือเลาะห์ หรือ ปลาพลวงชมพู เป็นหนึ่งในตระกูลปลาพลวงที่จะสร้างรายได้ให้กับชาวเบตง ภายใต้นโยบาย 3 เหลี่ยมเศรษฐกิจภาคใต้ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน แม้จะใช้เวลาในการเลี้ยงถึง 2 ปี จนได้ขนาดและราคากิโลกรัมละกว่า 3,000 บาท ส่งออก มาเลเชียกิโลกรัมละ7,000 ไต้หวัน กิโลกรัมละ 10,000 บาทที่เดียว
ต้นน้ำจากป่าฮาลาบาลา ที่เป็นต้นกำเนิด ปลากือเลาะห์ จะนำมาซึ่งรายได้อีกทาง ด้วยการสนับสนุนแพร่ขยายพันธุ์ โดยกรมประมง ส่งผลให้เกิดความร่วมมือภาครัฐกับชาวบ้าน ผ่านปลาพื้นเมืองของแหล่งแม่น้ำนี้อย่างถาวร
![](https://readykids.info/wp-content/uploads/2021/11/ปปป-1.png)
ปลากือเลาะห์ เป็นปลาน้ำจืดประจำท้องถิ่นจังหวัดยะลาและนราธิวาส มีชื่อเรียกตามภาษาท้องถิ่นว่า อีแกกือเลาะห์ หรือปลากือเลาะห์ อยู่ในตระกูลเดียวกับปลาเวียน และปลาพลวงหิน ความโดดเด่นในสีของเกล็ดที่มีลักษณะเป็นสีชมพู ครีบหลังและครีบหางสีแดง เป็นปลาพลวงชนิดเดียวที่สามารถกินได้ทั้งเกล็ด นิยมบริโภคในประเทศแถบอินโดจีน โดยเฉพาะมาเลเซีย ที่ยังไม่สามารถวิจัยเพาะขยายพันธุ์ได้ และมีกฎหมายห้ามจับจากธรรมชาติมากิน
สาเหตุที่มีราคาสูง เพราะเป็นปลาที่มีรสชาติดี หาได้ยาก อยู่ในสภาวะใกล้สูญพันธุ์ ถึงจะมีหน่วยงานราชการนำไปเพาะขยายพันธุ์ แต่การเลี้ยงก็ยังไม่กว้างขวาง เพราะเป็นปลาที่ตกใจง่าย
![](https://readykids.info/wp-content/uploads/2021/11/7-21.jpg)
คุณการุณ อุไรประสิทธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดยะลา ได้อธิบายว่า การขยายพันธุ์ และความยากลำบากของทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความชำนาญพิเศษ ที่ต้องคอยสังเกตระยะที่มีไข่สุกพร้อมมากที่สุด ถึงจะทำได้สำเร็จ และส่งเสริมให้เกษตรกร 50 ราย ในพื้นที่อำเภอธารโตและอำเภอเบตง จังหวัดยะลา เลี้ยงในบ่อดิน ต่อท่อตรงมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติและปล่อยให้ไหลผ่านระบบออกไป
โดยปล่อยลูกปลา ขนาด 2-3 นิ้ว หนัก 20 กรัม ในอัตรา 1-5 ตัว ต่อพื้นที่บ่อ 1 ตารางเมตร ให้อาหารปลาปลาดุก วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น มื้อละ 2-3% ของน้ำหนักตัว ใช้เวลาเลี้ยงปีครึ่งถึง 2 ปี ถึงจะมีน้ำหนัก 2.3 กิโลกรัม ได้ขนาดตรงความต้องการของตลาด
![](https://readykids.info/wp-content/uploads/2021/11/b3c317813a7f6a1e0a425ba9e270e5bd.jpg)
สาเหตุที่ปลาชนิดนี้มีราคาแพง เนื่องจากหายากในธรรมชาติ ส่วนการเลี้ยงปลากือเลาะห์ เป็นการเลี้ยงแบบระบบน้ำไหลผ่าน ซึ่งเป็นน้ำจากภูเขา ไม่ใช้เครื่องเติมออกซิเจน สร้างบ่อการเลี้ยงให้คล้ายแหล่งที่อยู่ตามธรรมชาติ และต้องเป็นน้ำที่สะอาดไม่มีมลพิษ ซึ่งใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 3 ปี ถึงจับไปขายได้ ขนาดตัวละประมาณ 2.5-3 กิโลกรัม ราคาขายหน้าฟาร์ม กิโลกรัมละประมาณ 3,000 บาท หากนำไปขายที่มาเลเซีย ราคากิโลกรัมละ 7,000 บาท และที่ไต้หวันราคาจะสูงถึงกิโลกรัมละ 10,000 บาท ปัจจุบัน กำลังการผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด เนื่องจากเป็นข้อกำจัดของสายพันธุ์ที่ออกไข่เพียง 500-1,000 ฟอง ต่อครั้ง เท่านั้น
สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. (073) 297-042
![](https://readykids.info/wp-content/uploads/2021/11/w1200-1024x576.jpg)
เรียบเรียงโดย เฟจเกษตรธรรมะก้าวหน้า