“กล้วย” เป็นพืชที่ขึ้นทั่วๆ ไปในเขตร้อน โดยเฉพาะในบ้านเราประเทศไทยมีความคุ้นเคยกันมาแต่โบร่ำโบราณ คนไทยสมัยก่อนปลูกเป็นไม้ประจำบ้าน เลยทีเดียว มีแทบทุกบ้านช่อง เพื่อใช้ประโยชน์สารพัดที่ผู้เขียนคุ้นเคยมากๆ เมื่อ 50-60 ปีที่ผ่านมา ปู่ ย่า ตา ยาย คุณพ่อ คุณแม่สมัยก่อนจะนิยมใช้เป็นอาหารเลี้ยงทารก
สมัยก่อนใช้ปลูกเป็นไม้คู่บ้านคู่เรือนของคนไทย มีทุกบ้านเรือน นอกจากปลูกหรือเป็นสิ่งมงคลของบ้าน ขอให้บ้านนี้ประสบความสำเร็จ ทำให้อะไรก็บรรลุวัตถุประสงค์โดยสะดวก แต่ที่สำคัญ เวลา “คน” จะเข้าเรือนออกเรือน โดยเฉพาะวัยหนุ่มสาวในพิธีมงคลสมรส เขาใช้ “ต้นกล้วย” ทั้งต้น มี “เครือกล้วย” ใช้ยก “ต้นกล้วย” นำแห่ขันหมากของฝ่ายชาย “เจ้าบ่าว” ไปสู่ขอ “เจ้าสาว” มักจะมีต้นอ้อยควบคู่ไปด้วย
หัวปลีกล้วย ถือเป็นอาหารที่กำลังได้รับความนิยมและมาแรงในต่างประเทศที่นิยมรับประทานอาหารมังสวิรัติ เนื่องจากมีรสชาติดี ทำอาหารได้หลากหลาย และเนื้อสัมผัสคล้ายเนื้อสัตว์ เหมาะแก่ผู้ต้องการลดน้ำหนักเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นปลีกล้วยยังมีสรรพคุณมากมายที่หลายคนยังไม่รู้และคาดไม่ถึง
ปลีกล้วยน้ำว้ามีประโยชน์อย่างไร
ในปลีกล้วยน้ำว้าอุดมไปด้วย ธ า ตุ เ ห ล็ ก แ ค ล เ ซี ย ม ฟ อ ส ฟ อ รั ส วิตมินเอและซี มากมาย จึงมีฤทธิ์ในการรักษาและบรรเทาอาหารต่างๆ ดังนี้
1. น้ำคั้นจากปลีกล้วยมีฤทธิ์ลดน้ำตาลใน โลหิต
2. ช่วยรักษาและบรรเทาโรคกระเพาะอาหาร
3. ช่วยขับน้ำนมสำหรับคุณแม่ในการให้นมบุตร
4. ซ่วยต้านอาการซึมเศร้า
5. ช่วยบำรุงโลหิต
สิ่งที่ต้องเตรียมในการทำน้ำหัวปลี
1. ปลีกล้วยน้ำว้าเท่านั้น
2. เตาสำหรับย่าง
3. น้ำสะอาด
วิธีการทำ
ให้นำปลีกล้วยนํ้าว้าย่างไฟให้เปลือกชั้นนอกไหม้เกรียมแล้วจากนั้นนำมาต้มกับนํ้าจนเดือดแล้ว ดื่มแทนน้ำทั้งวันให้หมดหม้อวันละ 1 หัว/วัน เป็นระยะเวลา 7 วัน
หากคนที่เป็นเ บาหวาน เมื่อดื่มประมาณ 1-2 วันแรก จะเริ่มมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกายซึ่งถือว่าเป็นปกติ เมื่อดื่มจนครบ 7 วัน โรคเบาหวานจะเรื่มดีขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้ยังสามารถรับประทานเป็นผบบสดหรือนำไปประกอบอาหารได้มากมายไม่ว่าจะเป็น แกงเลียงยำปลีต้มข่าไก่ รับประทานแกล้มกับน้ำพริก เป็นต้น ถือเป็นอาหารและตำหรับย า พื้นบ้านที่หาง่ายและมีรสชาติดีลองไปทำทานหรือดื่มกันดูนะคะ
ขอบคุณข้อมูล : หนังสือ สมุนไพรบำบัดเบาหวาน