Saturday, 27 July 2024

จากเด็กบ้านนอก “สู่เมืองกรุง” ชีวิตพลิกผัน ต้องออกจากโรงเรียน ทำก๋วยเตี๋ยวขายเพื่อเลี้ยงตัวเอง

หากคุณยังอายุแค่ 10 ขวบ คุณเคยคิดว่าจะต้องเข้าเมืองกรุงมาสู้ชีวิตเลี้ยงตัวเองไหม นี่เป็นเรื่องราวของ เด็กบ้านนอกผู้ถูกส่งให้มาเรียนที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ 10 ขวบ แต่แล้วชีวิตก็พลิกผันต้องออกจากโรงเรียนมาทำ ก๋วยเตี๋ยวขาย ไม่หันหลังกลับแต่กัดฟันสู้

เว็บไซต์ wongnai ได้เผยแพร่เรื่องราวของน้องปิ่น เดิมน้องปิ่นเป็นคน จ.ขอนแก่น แต่ยายส่งให้มาเรียนที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่อายุ 10 ปี พ่อและแม่ แ ย ก ท า ง กันตั้งแต่น้องปิ่นอายุ 2 ปี น้องปิ่นออกจากโรงเรียนตั้งแต่ประถมศึกษาปีที่ 6 แต่น้องปิ่นก็ไม่ได้ละทิ้งการเรียนแต่อย่างใด ปัจจุบันเธอยังคงเรียน กศน.

ไม่เด่นไม่ดังจะไม่หันหลังกลับไป เพลงในตำนานที่เราได้ยินมานานแสนนานแต่ไม่เคยเข้าใจความหมายลึกซึ้งของมันจนกระทั่งเราได้บังเอิญไปเจอเด็กสาวแววตากร้านชีวิตที่ยืนขาแข็งลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว ทันทีที่เห็นเด็กคนนี้ เรารู้ทันทีว่า เด็กคนนี้มีบางอย่าง บางอย่างที่ทำให้น้องต้องต่อสู้เพื่อตัวเองขนาดนี้

ฌัชณรี ทองศรี” หรือ “ก๋วยเตี๋ยวน้องปิ่นอายุ 14 ปี เด็กสาวขอนแก่นผู้ทิ้งบ้านเกิดมาตั้งแต่อายุ 10 ปีเพื่อมาเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ แต่อย่างที่เรารู้กันดีว่ากรุงเทพฯ เมืองศิวิไลซ์แห่งนี้ ไม่ได้มีความสบายไว้สำหรับเราทุกคน ปิ่นมีโอกาสเรียนถึงแค่ ป. 6 หลังจากนั้น คือโลกความเป็นจริงที่ปิ่นต้องเผชิญ ปิ่นต้องตื่น 6 โมงเช้ามาช่วยยายเตรียมของขายก๋วยเตี๋ยวและขายไปจนถึงบ่าย ยามเย็นก็ต้องช่วยขายข้าวแกงจนถึง 4 ทุ่ม

ก๋วยเตี๋ยวไก่ จากฝีมือสาวน้อยวัย 14

ยายของปิ่นบอกว่า อยากให้ปิ่นฝึกทำทุกอย่างเองให้เป็น เพราะยายไม่สามารถอยู่กับปิ่นไปตลอดชีวิตได้ เลยสอนให้ปิ่นทำก๋วยเตี๋ยวขาย และดูแลชีวิตประจำวันตัวเองให้ได้ ปิ่นมีโอกาสเรียนเพียงกศน. แรงกดดันที่ถูกส่งมาจากบ้านทำให้เธอต้องอดทนอยู่ในเมืองศิวิไลซ์ แต่อาจจะไม่ลงล็อกสำหรับเด็กบ้านนอกอย่างปิ่นเท่าไร เด็กอายุ 14 คนนี้ทำให้คิดว่าการต่อสู้ที่แท้จริงมันเหนื่อยมาก มากจนเราคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

ปิ่นไม่เคยกลับบ้านเลย แต่เมื่อถูกถามว่า ทำไมไม่กลับบ้าน ไม่คิดถึงบ้านหรอ ปิ่นบอกว่า “หนูยังกลับไม่ได้” คำตอบสั้นๆ ที่ไม่ต้องขยายความเราก็พอจะรู้ดีว่าเพราะอะไร ทำไมถึงทำอะไรมากมายขนาดนี้ได้ เหนื่อยไหม ปิ่นตอบด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ว่า “หนูต้องอดทน” ทันทีที่พูดจบ น้ำ ต า น้องก็ไหลออกมา แต่น้องอ่อนแอเพียงไม่นาน ก็หันมายิ้มให้เช่นเดิม

ทันทีที่จบประโยคน้ำใสๆ ก็ไหลมาจากตาของเด็กคนนี้ ชีวิตเราต้องสู้ แต่ใครจะไปรู้ว่าต้องสู้เร็วขนาดนี้ ลองนึกภาพเด็ก 10 ขวบ มาเดินหาความฝันในกรุงเทพฯ สิ เหมือนนิยาย แต่นี่คือชีวิตจริง และที่น่าเศร้าคือ ปิ่นก็ยังไม่รู้ว่าชีวิตหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปความเคว้งคว้างของเด็กคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะผ่านไป…ยังมีอีกหลายเรื่องที่เรายังไม่ได้เล่า แต่ขอยืนยันด้วยใจว่าเด็กคนนี้อดทนมากจริงๆ“แกมันโคตรเก่งเลยว่ะปิ่น”

ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครชมหนูเลย คำตอบของปิ่นทำเอาหลายคนอึ้ง คนบางคนเกิดมาไม่เคยได้รับเรื่องอ่อนโยนเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้เลย น้องทำให้รู้ว่า คำบางคำอาจเปลี่ยนโลกทั้งใบของคนบางคน คำชมเล็กๆ อาจเป็นแรงผลักดันต่อชีวิต และกำลังใจคนคนหนึ่งไปอีกนาน

สำหรับก๋วยเตี๋ยวฝีมือน้อง ปิ่นทำ “เส้นเล็กไก่” (35 บาท) น้องให้มาแน่นชามเลยทีเดียว เส้นเล็กของน้องเหนียวกำลังดี หอมกลิ่นกระเทียมเจียวเล็กๆ น้ำซุปกลมกล่อม หอมเครื่องเทศมาก กับอีกเมนู “เกาเหลาไก่” (40 บาท) กินคู่กับ “ข้าวเปล่า” (5 บาท) กินคู่กันรสชาติกำลังดี กลมกล่อม หอมกลิ่นสมุนไพรเบาๆ

ใครที่กำลังหาร้านก๋วยเตี๋ยวย่านพระโขนงกิน ก็แวะไปชิมฝีมือน้องได้ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 08.00 -20.00 น. หลังจากนั้นน้องจะช่วยขายข้าวแกงจนถึง 23.00 น. แวะไปอุดหนุนน้องกันได้นะคะ และสำหรับน้องปิ่นรวมถึงอีกหลายๆ คนที่ทิ้งบ้านมาทำงานที่กรุงเทพฯ แล้วยังไม่กล้ากลับบ้านไม่ว่าจะช่วงเวลาไหนก็ตาม ถ้ามีโอกาสก็กลับบ้านบ้าง ไปอยู่บ้านดีๆ กลับไปมองคนในครอบครัวเราดีๆ กลับไปดูแลเขา เพราะบางทีความสุข และเชื้อเพลิงแห่งการสู้ชีวิตที่แท้จริงของคนที่รอเราอยู่ที่บ้านก็คงเพียงแค่ได้เจอหน้าเจอเราเท่านั้น

ข้อมูลและภาพจาก wongnai