การประกวดผลงานสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ครั้งที่ 66 ปีการศึกษา ที่ผ่านมา 2 หนุ่มน้อยจากโรงเรียนย่านปากช่อง คว้ารางวัลเหรียญทอง ลำดับที่ 7 มาครองได้ จึงนับเป็นเด็กเก่งของโรงเรียน ที่ต้องหยิบยกมากล่าวถึงในที่นี้
เพราะสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ที่คว้ารางวัลเหรียญทองมาครองในครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับงานด้านเกษตรกรรมและคอลัมน์นี้ ให้เกียรตินักเรียนและสถานศึกษาที่ให้ความสำคัญกับงานด้านเกษตรกรรม
![](https://readykids.info/wp-content/uploads/2020/02/3-7-768x1024-1.jpg)
นายพชรพล คุ้มภัย (ซ้าย) และ เด็กชายพิพัฒพงศ์ ลักภูกลาง (ขวา)
2 หนุ่มน้อย คือ นายพชรพล คุ้มภัย นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ เด็กชายพิพัฒพงศ์ ลักภูกลาง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ทั้งสองคนมีแนวคิดในการประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ แล้วนำมาใช้กับกิจกรรมเกษตรภายในโรงเรียน
![](https://readykids.info/wp-content/uploads/2020/02/1-10-817x1024-1.jpg)
อาจารย์บัณฑิต วงศ์อามาตย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองซ่อมตะเคียนงาม
ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 บ้านตะเคียนงาม ตำบลโป่งตาลอง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า โรงเรียนบ้านหนองซ่อมตะเคียนงาม มีพื้นที่ทั้งหมด 12 ไร่ เป็นที่ดินที่ได้จากการร่วมกันบริจาคโดยชุมชน ก่อตั้งมากว่า 40 ปีแล้ว มีการเรียนการสอนระดับอนุบาลถึงระดับมัธยมศึกษาศึกษาตอนต้น มีนักเรียนทั้งสิ้น 358 คน บุคลากรทางการศึกษา 18 คน
![](https://readykids.info/wp-content/uploads/2020/02/18-768x512-1.jpg)
“โรงเรียนให้ความสำคัญกับการทำเกษตร จึงน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มาใช้ ซึ่งที่ผ่านมาหากเราพูดเพียงน้อมนำมาใช้ แต่ในทางปฏิบัตินักเรียนของเราทำไม่ได้ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นการน้อมนำมาใช้จริง จึงควรปรับบริบทให้นักเรียนรู้จริงด้วยการลงมือปฏิบัติให้เกิดขึ้นภายในโรงเรียน”
พื้นที่ 1 ใน 4 ของทั้งหมด ถูกแปลงให้เป็นพื้นที่ทางการเกษตร
![](https://readykids.info/wp-content/uploads/2020/02/13-768x433-1.jpg)
พื้นฐานของนักเรียนเกือบทั้งหมด มีความรู้ด้านเกษตร แต่ที่มีที่ดินทำกินทำการเกษตรอยู่แล้ว เพียง 65 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 35 เปอร์เซ็นต์ คือ นักเรียนที่ย้ายตามผู้ปกครองมาจากที่อื่น แต่มาทำกินในพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงเรียน
งานเกษตรของโรงเรียน ประกอบด้วย บ่อเลี้ยงปลากินพืช (บ่อดิน) บ่อซีเมนต์เลี้ยงปลาดุก โรงเรือนเพาะเห็ด โรงเรือนไก่ไข่ แปลงผักสวนครัว แปลงผักสลัด เลี้ยงหมูป่า และไม้ผล
![](https://readykids.info/wp-content/uploads/2020/02/10-2-768x513-1.jpg)
นักเรียนแต่ละระดับชั้นมีหน้าที่รับผิดชอบในแต่ละกิจกรรมแตกต่างกันออกไป โดยงานเกษตรเริ่มต้นที่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ระดับชั้นที่เล็กไปกว่านั้น อาจารย์บัณฑิต บอกว่า ได้หยิบจับงานเกษตรในชั่วโมงเรียนแต่ไม่ได้รับผิดชอบประจำ เพราะถือว่ายังเป็นเด็กเล็ก ความรับผิดชอบยังไม่สมบูรณ์
บ่อเลี้ยงปลากินพืช (บ่อดิน) มีขนาด 1 งาน ปล่อยปลากินพืช เช่น ปลานิล ปลาตะเพียน และปลาสวาย ของบประมาณสนับสนุนจากมูลนิธิหลวงพ่อคูณปริสุทโธ เป็นพันธุ์ปลาและอาหารปลา ปลาทั้งหมดถูกปล่อยลงในช่วงกลางปี และวิดบ่อเพื่อจับปลาขายให้กับชุมชนในช่วงเดือนพฤศจิกายนหรือเดือนธันวาคมของทุกปี
![](https://readykids.info/wp-content/uploads/2020/02/20-768x512-1.jpg)
บ่อซีเมนต์เลี้ยงปลาดุก เป็นหน้าที่รับผิดชอบของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ต้องให้อาหาร เปลี่ยนน้ำ และสังเกตความเปลี่ยนแปลงของปลาดุกทั้งหมด 5 บ่อ แต่ละบ่อปล่อยปลาขนาดไล่เลี่ยกัน ปลาดุกเป็นการเลี้ยงโดยเน้นขายให้กับโครงการอาหารกลางวัน สัปดาห์ละครั้ง ยกเว้น เมื่อมีออเดอร์สั่งซื้อจำนวนมากก็จะจับขายตามปริมาณที่ลูกค้าต้องการ
ส่วนไก่ไข่ เริ่มต้นเลี้ยงไก่ไข่ในโรงเรือน ทั้งสิ้น 60 ตัว สามารถเก็บไข่ไก่ได้ วันละ 40-50 ฟอง แม้ว่าไข่ไก่จะสามารถเก็บได้มาก แต่ไข่ไก่ก็เป็นเมนูสำคัญในโครงการอาหารกลางวันของเด็ก สัปดาห์ละ 2-3 วัน เมื่อมีไข่ไก่เหลือจากเข้าโครงการอาหารกลางวัน ก็จะนำไปขายให้กับชุมชน
![](https://readykids.info/wp-content/uploads/2020/02/12-768x424-1.jpg)
ผักสวนครัว จัดเป็นแปลงพื้นที่มากพอสมควร ปลูกผักตามฤดูกาล เช่น ผักบุ้ง กวางตุ้ง ผักกาดขาว เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีผักสลัด ซึ่งจะปลูกเฉพาะฤดูหนาว และขายได้ราคาดี
ผักสวนครัวทั้งหมด จัดเป็นผักปลอดสารพิษไม้ผล มีให้เห็นทั่วบริเวณโรงเรียน ได้แก่ กล้วย มะม่วง มะขาม ส้มโอ กล้วย ลงไว้ตรงไหนก็ได้ผลดี
มะม่วง มีเกือบ 30 ต้น เป็นมะม่วงหลากสายพันธุ์ รับประทานได้ทั้งดิบและสุก แต่จำหน่ายไม่ได้ เพราะในท้องถิ่นก็มีมะม่วงปลูกไว้เกือบทุกบ้าน ใช้เป็นผลไม้ในโครงการอาหารกลางวันเท่านั้น
![](https://readykids.info/wp-content/uploads/2020/02/19-768x513-1.jpg)
ส้มโอ มีมากกว่า 10 ต้น ผลผลิตดี แต่รสชาติไม่ดี ทำให้จำหน่ายไม่ได้ คาดว่าเกิดจากพื้นที่ปลูกไม่เหมาะสมกับพืช มะขาม ปลูกเป็นร่มเงา ทั่วบริเวณโรงเรียน
ทั้งหมดเป็นกิจกรรมการเกษตรที่กระจายความรับผิดชอบออกไปให้กับเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3
![](https://readykids.info/wp-content/uploads/2020/02/7-3-768x436-1.jpg)
การทำงานของกล่องควบคุมการให้น้ำพืช ระบบน้ำหยดอัตโนมัติ
ส่วนสองหนุ่มน้อยที่ได้รับรางวัลเหรียญทอง ลำดับที่ 7 จากการประกวดผลงานสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ครั้งที้ 66 ปีการศึกษา 2559 ที่ผ่านมา คือการประดิษฐ์กล่องควบคุมการให้น้ำพืช ระบบน้ำหยดอัตโนมัติ
ปัจจุบัน กล่องนี้ถูกนำมาใช้งานจริงในแปลงเกษตรของโรงเรียน ในส่วนของแปลงผักสวนครัวและแปลงผักสลัด
![](https://readykids.info/wp-content/uploads/2020/02/6-3-768x429-1.jpg)
อาจารย์พิจิตรา ถ้ำกลาง อาจารย์สอนวิชาวิทยาศาสตร์
ที่ปรึกษาของการประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ เล่าว่า ปลายปี 2558 พานักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาไปทัศนศึกษาที่ศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ (ไร่สุวรรณ) นักเรียนเห็นเครื่องให้น้ำพืชขนาดใหญ่ภายในไร่
จึงมีแนวคิดประดิษฐ์เครื่องให้น้ำพืชขนาดเล็กบ้าง ประกอบกับจะมีการประกวดผลงานสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ ทำให้โครงงานสิ่งประดิษฐ์เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
![](https://readykids.info/wp-content/uploads/2020/02/2-8-768x1048-1-750x1024.jpg)
“ครูทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา ส่วนเด็กเขาคิดของเขาเอง และทำเองทุกขั้นตอน เริ่มจากเขียนโครงงาน ซื้ออุปกรณ์ ลงมือปฏิบัติต่อแผงวงจร ตั้งเวลาการให้น้ำ ทดลองตั้งแต่แรกจนสามารถนำมาใช้งานได้จริงในโรงเรียน”
พี่สอนน้อง
การทำงานของกล่องควบคุมการให้น้ำพืช ระบบน้ำหยดอัตโนมัติ ใช้ไฟขนาด 12 โวลต์ ผลิตไฟฟ้าด้วยแผงโซลาร์เซลล์ แต่ติดตั้งระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ไว้ด้วย กรณีที่ไม่ได้ใช้งาน แผงโซลาร์เซลล์จะเก็บพลังงานส่งต่อไปยังแบตเตอรี่ จากนั้นแบตเตอรี่จะส่งต่อพลังงานไปเก็บไว้ที่กล่องก่อนนำออกมาใช้งาน ภายในกล่องจะมีแผงวงจรควบคุมการทำงานทั้งหมด
การทำงานของกล่องควบคุมการให้น้ำพืช ระบบน้ำหยดอัตโนมัติ สามารถตั้งเวลาให้น้ำได้ รวมถึงระยะเวลาการให้น้ำ แต่ทั้งนี้การให้น้ำได้มากน้อย ขึ้นอยู่กับแรงดันน้ำในพื้นที่นั้นๆ ด้วย
![](https://readykids.info/wp-content/uploads/2020/02/5-3-768x513-1.jpg)
“แผงวรจรควบคุมเป็นตัวหลักสำคัญของการออกแบบ เพราะแผงควบคุมจะสั่งการออกมาที่วาล์ว วาล์วที่ใช้เป็นวาล์วไฟฟ้า เพื่อสั่งเปิดปิดน้ำ และตั้งเวลากรณีที่ไม่อยู่ ต้องการให้รดน้ำเช้าหรือเย็น วันเว้นวัน รดต่อครั้งนานเท่าไหร่ก็ได้ ใน 1 วัน สามารถตั้งเวลาให้ทำงานได้ถึง 8 รอบ ตรงนี้เด็กเป็นคนต่อแผงวงจรเองทั้งหมด แผงวงจรภายในถึงยุ่งเหยิง แต่ก็ทำงานได้ดี”
ต้นทุนของกล่องควบคุมการให้น้ำพืช ระบบน้ำหยดอัตโนมัติเครื่องนี้ อยู่ที่ 1,352 บาท
กล่องนี้ ติดตั้งอยู่ในแปลงเกษตรของโรงเรียน 2 จุด และเป็นตัวจุดประกายให้นักเรียนหลายคนอยากนำไปประยุกต์ใช้ในแปลงเกษตรของครอบครัว ซึ่งที่ผ่านมา อาจารย์พิจิตรา บอกว่า เคยนำไปทดลองทำในแปลงเกษตรที่บ้านของนักเรียนมาแล้ว และได้ผลดี ปัจจุบัน อยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อนำไปใช้สำหรับการให้น้ำสัตว์เลี้ยง เช่น การให้น้ำไก่ไข่ในโรงเรือน ซึ่งคาดว่าภายในปีการศึกษาหน้าน่าจะพัฒนาแล้วเสร็จและนำไปใช้ได้
![](https://readykids.info/wp-content/uploads/2020/02/4-5-768x427-1.jpg)
นับว่าเป็นความโชคดีของโรงเรียนบ้านหนองซ่อมตะเคียนงาม ที่มีนักเรียนที่สนใจไขว่คว้าหาสิ่งประดิษฐ์ที่เอื้อประโยชน์ต่อการเกษตร ซึ่งเป็นพื้นฐานของชีวิตประจำวัน และนับว่าเป็นความโชคดีของนักเรียน ที่มีอาจารย์ที่ให้ความสนใจถ่ายทอดและสนับสนุนความรู้เพิ่มเติม อันเป็นบริบทที่ขาดซึ่งกันและกันไม่ได้ จึงส่งผลให้โรงเรียนได้รับการยอมรับว่า เป็นโรงเรียนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง
โรงเรียนตั้งอยู่ในที่เข้าออกง่าย อยากแวะเวียนไปเยี่ยมชม ติดต่อ อาจารย์บัณฑิต วงศ์อามาตย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองซ่อมตะเคียนงาม หมู่ที่ 5 บ้านตะเคียนงาม ตำบลโป่งตาลอง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โทรศัพท์ (094) 518-6904 ในวันเวลาราชการ