Saturday, 27 July 2024

ข่าวดี รถอายุเกิน 7 ปี ต่อภาษีออนไลน์ได้แล้ว โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปขนส่ง

ล่าสุด ก ร ม ก า ร ข น ส่ ง ท า ง บ ก ได้เปิดเผยว่า ทางกรมการขนส่งทางบก ได้พัฒนาเว็บไซต์ชำระภาษีรถประจำปี ให้สามารถรองรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง), รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รถตู้), รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รถกระบะ) ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี รถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรกได้แล้ว

ประหยัดเงินและเวลาไปได้อีกหน่อย สำหรับผู้เป็นเจ้าของรถยนต์อายุเกิน 7 ปี หรือรถมอเตอร์ไซค์อายุเกิน 5 ปี และไม่ได้ต่อภาษีประจำปีด้วยตัวเอง แต่ชอบใช้บริการรับต่อภาษีรถยนต์ผ่านตัวแทน ตอนนี้กรมการขนส่งทางบกประกาศให้รถเก่าอายุเกินสามารถต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ได้แล้ว แค่ไปตรวจสภาพรถที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ตามปกติเสียก่อน

แต่มี เงื่อนไข นั้นก็คือ รถคันนั้นต้อง “ ผ่ า น ก า ร ต ร ว จ ส ภ า พ ร ถ จ า ก ส ถ า น ต ร ว จ ส ภ า พ ร ถ ( ต ร อ . ) ” ก่อนจึงจะดำเนินการตามขั้นตอนชำระภาษีในเว็บไซต์ได้นั้นเอง

โดยในปัจจุบัน เว็บไซต์ชำระภาษีรถประจำปี https://eservice.dlt.go.th/ สามารถให้บริการชำระภาษีรถประจำปี รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง), รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รถตู้), รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รถกระบะ) และรถจักรยานยนต์ ได้ทุกอายุการใช้งานแล้ว เป็นอีกหนึ่ง การพัฒนาบริการเพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกการให้บริการรับชำระภาษีรถประจำปี ลดขั้นตอน ลดระยะเวลา เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ให้แก่ประชาชน ด้วยแนวคิดอยู่ที่ไหน ก็ชำระภาษีรถประจำปีได้ง่ายๆ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

รถที่อยู่ในข่ายต้องตรวจสภาพ ก่อนเสียภาษีประจำปี
-รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี ขึ้นไป
-รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี ขึ้นไป
-รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี ขึ้นไป
-รถจักรยานยนต์ ที่มีอายุใช้งานครบ 5 ปี ขึ้นไป
-รถที่ภาษีขาดเกิน 1 ปี

สถานที่ตรวจสภาพ
รถที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกทุกประเภทเจ้าของรถจะนำไป ตรวจสภาพ ที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก และหน่วยงานของกรมการขนส่งทางบกก็ได้ ซึ่งจะมีขั้นตอนการตรวจดังนี้

– ตรวจสอบความถูกต้องของรถยนต์ หมายเลขตัวรถ หมายเลขเครื่องยนต์ สี เชื้อเพลิง ประเภทรถ
– ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของรถ
– ตรวจระบบไฟ
– ตรวจวัดมลพิษ
– ตรวจวัดศูนย์ล้อ ระบบเบรค ช่วงล่าง ไฟหน้า

ระยะเวลาที่ต้องนำรถไปตรวจสภาพ เจ้าของสามารถนำไปตรวจสภาพล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน ก่อนถึงวันสิ้นอายุภาษีประจำปี

อัตราค่าตรวจสภาพ
รถจักรยานยนต์ คันละ 60 บาท
รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม คันละ 150 บาท
รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 1,600 กิโลกรัม คันละ 250 บาท

ในการไปติดต่อกับสถานตรวจสภาพรถให้เข้าของรถนำรถและ สมุดคู่มือทะเบียนรถ ไปแสดง และหากผลการตรวจสภาพปรากฏว่า รถอยู่ในเกณฑ์ที่ผ่านการตรวจ สภาพสถานตรวจสภาพรถจะออกใบรับรองการตรวจสภาพรถตามแบบ ที่กรมการ ขนส่งทางบกกำหนด รถอยู่ในเกณฑ์ไม่ผ่านการตรวจสภาพ สถานตรวจสภาพรถจะแจ้งข้อบกพร่องที่เป็นเหตุให้รถนั้นไม่ผ่านการตรวจสภาพให้เจ้าของทราบ เพื่อจะได้ นำรถไปแก้ไขข้อบกพร่องแล้วนำมาตรวจใหม่ หากแก้ไขแล้วนำไปตรวจ สภาพที่ สถานตรวจสภาพรถเอกชนแห่งเดิมภายใน 15 วัน จะเสียค่าตรวจใหม่ ในอัตราครึ่งหนึ่งของค่าบริการที่กำหนดไว้ แต่หากเกิน 15 วัน หรือไปตรวจที่สถาน ตรวจสภาพรถเอกชนแห่งอื่น จะเสียค่าบริการเต็มอัตรา

สำหรับท่านผู้อ่านที่อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมนั้น สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.dlt.go.th