“ คนขี้เกียจ ” ที่ไม่ใช่ “ คนอู้ ” เป็นคนที่ขี้เกียจแบบก้าวหน้านั้น เป็นยากนะ คนทั่วไปอ่านแค่หัวข้อเรื่องแล้วบอกว่า คนรวยคือคนขี้เกียจ ก็เลยพากันไม่ทำอะไรเลย หลายคนหวังพึ่งแต่ดวง หวย และโชคชะตา มัวแต่อู้งาน ทำงานเช้าชามเย็นชาม
คนขี้เกียจแบบก้าวหน้า สรุปมา 1O ข้อจากหนังสือ “สำเร็จได้สไตล์คนขี้เกียจ”ของ Naoyuki Honda
1. ขี้เกียจได้ แต่ทุกอย่างต้องเรียบร้อย ไม่ทิ้งเวลาโดยเปล่าประโยชน์
โดยปกติคนเราจะมี ช่วงเวลาสำคัญที่คิดหรือทำงานได้อย่างราบรื่นประมาณ 2 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งหากเรารู้ช่วงเวลาดังกล่าวและใช้ช่วงเวลานั้นไปกับการทำในสิ่งสำคัญที่สุดก่อน ผลที่ได้นอกจากจะช่วยย่นระยะเวลาแล้ว
ยังช่วยให้สิ่งที่ทำออกมามีประสิทธิภาพด้วย นึกง่ายๆ เลยเวลาเรียนหนังสือหรือทำงาน เราจะคิดอะไรออกแค่ 2 ชั่วโมงแรกเท่านั้น แม้แต่การประชุมก็ตาม หลังจากนั้น เราจะเริ่มใจลอยและคิดเรื่องอื่น ไม่อยากจะทำสิ่งตรงหน้าแล้ว ดังนั้น 2 ชั่วโมงอันมีค่าที่สุดเราจะต้องจัดสรรค์ให้ดีและทำงานให้รวดเร็วที่สุด เพื่อที่เวลาที่เหลือเราจะได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำ
2. ลองหัดทำอะไรติดกันสัก 10 วันดู
ตัวอย่างคือ การเข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลา เมื่อคุณทำติดต่อกันได้สัก 10วัน ร่างกายคุณจะปรับให้ไม่รู้สึกยากเหมือนในช่วงวันแรกๆ
3. ย่อยเป้าหมายลงมาเหมือนแบ่งขนมให้เพื่อน
หากรู้สึกว่าเป้าหมายห่างไกลจากตัวเองมาก คุณควรแบ่งเป้าหมายเป็นเฟสย่อยแล้วค่อยทำไปทีละขั้น แต่เป้าหมายนั้นต้องเป็นไปได้
4. หาแรงบันดาลใจจากโลกภายนอก
ง่ายที่สุดคือมองหาคนเก่ง และลองทำให้ได้เหมือนอย่างเขา
5. ทำอะไรที่มันไม่กดดันบ้าง อย่าไปเครียดเยอะ
แรงกดดันที่มากเกินไปอาจกลายเป็นความเครียด และการทำงานบนพื้นฐานของความเครียดอยู่ตลอดย่อมไม่ส่งผลดี
6. หาสภาพแวดล้อมที่ทำให้ขี้เกียจได้ยาก
คือ ตั้งเวลาทุก 1 ชั่วโมงว่าจะทำงานนี้ให้เสร็จถึงขั้นตอนไหน
7. เลือกทำกิจวัตรที่รู้สึกว่าได้กำไร
คือฟังอะไรดีๆ เวลาขับรถ จะได้ไม่รู้สึกเสียเวลาเปล่า หรือฟังอะไรที่อยากฟังก็ได้ เรื่องตลกขำขัน หรือบทความภาษาอังกฤษ
8. อะไรที่เปลี่ยนไม่ได้ก็ช่างมันบ้าง
ต้นทุนชีวิตที่ไม่เท่ากัน การนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นหรือสนใจแต่ชีวิตคนอื่น อาจจะทำทำให้เราลืมเป้าหมายที่แท้จริงของตัวเอง
9. พักผ่อนไปพร้อมๆ กันทำงาน
การนอนคือการพักผ่อนที่ดีที่สุด โดยเฉพาะการเข้านอนเร็ว และไม่ทำกิจกรรมอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการนอนบนเตียง รวมทั้งในระหว่างนอนไม่ควรเก็บอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไว้ใกล้ตัว
10. ให้ตัวเองขี้เกียจได้บ้าง
ต้องไม่ปฏิเสธความจริง อาทิ หากคุณรู้สึกว่าตัวเองป่วย และสามารถลางานได้ คุณก็ไม่ควรฝืนตัวเองไปทำงาน เพราะนอกจากงานที่ทำจะไม่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อาจทำให้ร่ายกายและจิตใจคุณแย่ยิ่งไปกว่าเดิม
สุดท้ายเราอาจไม่จำเป็นต้อง Work Hard หรือทำงานให้หนัก หากเรารู้จักที่จะ Work Smart หรือทำงานแบบคนมีความคิด มีแบบแผนในการทำงาน และไม่เคร่งเครียดกับงานมากจนเกินไป เพื่อให้เรามีเวลาได้พักผ่อน ได้ทำในสิ่งอื่นที่สำคัญกับชีวิต
“I will always choose a lazy person to do a difficult job because he will find an Easy way to do it” – Bill Gates
“ผมมักเลือกคนขี้เกียจให้ทำงานยากๆ เสมอ เพราะพวกเค้าจะหาวิธีที่ง่ายที่สุดในการทำมันให้สำเร็จ” – บิล เกตส์
อ้างอิง Mission to the Moon, หนังสือ “สำเร็จได้สไตล์คนขี้เกียจ”ของ Naoyuki Honda